ประสบความสำเร็จด้วยการสร้าง Self Efficacy

 

 

ประสบความสำเร็จด้วยการสร้าง Self Efficacy

 

เพิ่มเพื่อน

 

คุณพ่อคุณแม่อาจเคยได้ยินคำว่า Self Esteem กันมาบ้างแล้ว ซึ่งหมายถึงการเห็นคุณค่าในตนเอง ส่วน Self Efficacy นั้น อาจจะยังไม่ค่อยคุ้นเคยกันใช่ไหมคะ ฟังดูคล้าย ๆ กัน แต่วันนี้เราจะมาอธิบายว่า Self Efficacy คืออะไร แล้วส่งผลอย่างไรบ้างกับเด็ก ๆ 

 

นักจิตวิทยา อัลเบิร์ต แบนดูร่า (Albert Bandura) มีทฤษฎีหนึ่งซึ่งเป็นแนวคิดของหนึ่งในทฤษฎีการเรียนรู้ทางปัญญาสังคม เรียกว่า ทฤษฎี Self-Efficacy หรือ การรับรู้ความสามารถของตนเอง
 

Self-Efficacy หมายถึง ความเชื่อในความสามารถของตนเองในการกระทำหรือปฏิบัติงานหนึ่ง ๆ ให้สำเร็จตามที่ได้ตั้งเป้าหมายไว้ ซึ่ง Self-Efficacy ไม่ได้ขึ้นอยู่กับทักษะที่เรานั้นมีเพียงอย่างเดียว แต่ยังขึ้นอยู่กับการที่เราพิจารณาตัดสินว่าตนเองจะสามารถทำอะไรได้จากทักษะที่มี ซึ่งส่งผลต่อแรงจูงใจ ความพยายาม และความอดทนต่ออุปสรรค .. กล่าวคือ Self-Efficacy จะเป็นรากฐานของการเกิด Self-Esteem ในลำดับต่อไป สองสิ่งนี้มักมาเป็นคู่กันเสมอค่ะ


แล้ว Self-Efficacy สำคัญอย่างไรกับเด็ก ๆ

 

แน่นอนว่าเป้าหมายของคุณพ่อคุณแม่ทุกคนคือ อยากเห็นลูกรักเติบโตอย่างมีคุณภาพ เป็นผู้ใหญ่ที่ดี และประสบความสำเร็จในชีวิต ซึ่งการที่จะให้ลูกรักประสบความสำเร็จ ต้องเสริมสร้าง Self-Efficacy ที่แข็งแรงให้กับลูก เพื่อเป็นรากฐานของ Self-Esteem

เพื่อให้เห็นภาพมากขึ้น .. เช่น ถ้าเรามีความเชื่อว่าตนเองมีความสามารถ(Self-Efficacy)อย่างไร ก็จะแสดงออกถึงความสามารถนั้นออกมาตามนั้น คนที่มีความเชื่อในตนเองว่ามีความสามารถพอ ก็จะมีความอดทนไม่ท้อถอย กล้าเผชิญหน้ากับอุปสรรค จัดการปัญหาที่เกิดขึ้นได้ และจะพยายามจนประสบความสำเร็จ เมื่อคนนั้นสามารถประสบความสำเร็จได้ด้วยตนเองแล้วก็จะเกิดความภาคภูมิใจในตนเอง (Self-Esteem) ตามมา

 

ในปัจจุบันหากเด็กถูกเลี้ยงมาอย่างที่มีคุณพ่อคุณแม่คอยกำหนดแผนขีวิตให้ ไม่ยอมให้ลูกตัดสินใจหรือทำอะไรด้วยตัวเอง ส่วนมากเด็กกลุ่มนี้จะมี Self-Efficacy ไม่แข็งแรง และจะทำให้เด็ก ๆ กลุ่มนี้แก้ปัญหา หรือช่วยเหลือตัวเองไม่เป็น ไม่มีความสุขในการใช้ชีวิต เพราะมักจะโดนกำหนดกฏเกณฑ์อยู่เสมอ


หากเป็นเช่นนี้แล้ว เรามาเสริมสร้าง Self Efficacy ของลูกให้แข็งแรง เพื่อที่จะช่วยให้ลูกประสบความสำเร็จในอนาคตกันเถอะ!

 

เทคนิคเสริมสร้าง Self-Efficacy เริ่มได้ตั้งแต่วัยเด็ก
 

?ชื่นชมความสำเร็จของลูกในหลาย ๆ เรื่อง 
ความสำเร็จของลูกไม่ได้มีเพียงแค่เรื่องเรียนเท่านั้น ลองชมลูกในหลาย ๆ เรื่อง เช่น ลูกปั่นจักรยาน 2 ล้อได้แล้ว ยิ่งจะเพิ่มโอกาสให้ลูกได้รับรู้ว่าเขามีความสามารถอะไรบ้าง
 

?สร้าง Self-Efficacy โดยเริ่มจากงานบ้าน
งานวิจัยทางจิตวิทยาจาก Harvard Grant Study พบว่า การสอนให้ลูกทำงานบ้านมีประโยชน์หลายอย่างในระยะยาว เพราะลูกของเราจะมีการเตรียมตัวให้พร้อมต่อการทำงานในอนาคตได้ฝึกการวางแผน ฝึกการจัดลำดับความสำคัญ ฝึกการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า กล้าคิด กล้าตัดสินใจ ฝึกระเบียบ ในช่วงแรก คุณพ่อคุณแม่อาจต้องทำให้ลูกดูเป็นตัวอย่าง หรือสอนวิธีทำงานบ้านง่าย ๆ ให้กับลูก จากนั้นต้องปล่อยให้ลูกทำเองจนสำเร็จ เพราะลูกจะได้รู้สึกว่าผลงานนั้นเป็นของเขาเองจริง ๆ ลูกจะภูมิใจในตัวเอง และรับรู้ถึงความสามารถที่ตนเองมีแน่นอน
 

?ให้ความรักแก่ลูกแบบจริงใจ
สังคมไทยเรามักจะอายเวลาที่จะแสดงความรักให้ลูกเห็น ยิ่งโตการแสดงความรักยิ่งน้อยลง แต่บางครั้งเรามักจะแสดงความรัก ความภูมิใจในตัวลูกก็ต่อเมื่อเขาทำตามความคาดหวังของเราสำเร็จเท่านั้น สิ่งนี้คือเงื่อนไขที่เราอาจสร้างขึ้นโดยไม่รู้ตัว คุณพ่อคุณแม่ควรให้ความรักลูกแบบไม่มีเงื่อนไขใด ๆ
 

?ใส่ใจความรู้สึกลูกให้มากขึ้น
หากคุณพ่อคุณแม่มัวแต่ใส่ใจ ชื่นชมในผลลัพธ์ หากมันออกมาไม่ได้ดั่งใจที่คุณพ่อคุณแม่ตั้งไว้ อาจทำให้ลูกเสียกำลังใจ และคิดว่าเขาไม่เก่งพอ ความกล้า ความเชื่อมั่นในการ แก้ปัญหา ของลูกคงไม่พัฒนาไปในทางที่ดีแน่ หันมาใส่ใจเรื่องความรู้สึกของลูกให้มากขึ้น การแสดงความใส่ใจ รับฟังสุข ทุกข์ของลูกด้วยนะคะ
 

?เป็นที่ปรึกษา ไม่ใช่ผู้ควบคุม
คุณพ่อคุณแม่เป็นคนให้ชีวิตกับลูกก็จริง แต่ชีวิตเป็นของลูกค่ะ ลองให้ลูกทำอะไรด้วยตัวเอง เมื่อเขาทำสำเร็จเขาจะรู้สึกภูมิใจเพราะนั่นเป็นความสำเร็จของเขาเอง โดยคุณพ่อคุณแม่คอยให้คำปรึกษา ชี้แนวทางช่วยเหลือลูกเมื่อลูกต้องการนะคะ

 

อย่าลืมลองนำเทคนิคเหล่านี้ไปปรับใช้ เพื่อเพิ่มโอกาสในการประสบความสำเร็จในชีวิตให้กับลูกรักกันนะคะ

 

นอกจากการเลี้ยงดูที่ดีจากครอบครัวแล้ว การฝึกทักษะการเรียนรู้ให้ลูกก็สำคัญไม่แพ้กัน มาเตรียมสมองและพัฒนาทักษะพื้นฐานของลูก ๆ ให้แข็งแรงขึ้นได้ที่ BrainFit เราพัฒนาศักยภาพสมองของเด็ก ๆ แต่ละด้านให้แข็งแรง เพื่อให้เด็ก ๆ มีความพร้อมและมีทักษะการเรียนรู้สิ่งต่าง ๆ ให้มีประสิทธิภาพดียิ่งขึ้น ผลลัพธ์ที่ได้ จะทำให้เด็กมีความพยายาม มีความสุขและพร้อมเรียนรู้กับสิ่งต่าง ๆ รอบตัวมากขึ้น



เพิ่มเพื่อน

 

พัฒนาสมาธิอย่างถูกวิธี ตามหลักประสาทวิทยา

 

 

------------------------------------

สอบถามเพิ่มเติม หรือ ทดลองเรียน ฟรี!

จันทร์ อังคาร พุธ เสาร์ และ อาทิตย์  โทร 02-656-9938

วันพฤหัสบดี-วันศุกร์   091-774-3769

LINE Official Account: @brainfit_th

 

 


อ้างอิง: iStrong Mental Health / Amarin Baby and Kids.

Contact Us

หากคุณสนใจคอร์สหรือต้องการข้อมูลเพิ่มเติมสามารถติดต่อเราได้เลย

BrainFit Studio Thailand ชั้น 2, อาคารเพลินจิตเซ็นเตอร์,
สุขุมวิทซอย 2, กทม. 10110BTS สถานีเพลินจิต ทางออก 4