5 สิ่งที่ควรทำ กับ 5 สิ่งที่ไม่ควรทำในช่วงปิดเทอม

5 สิ่งที่ควรทำ กับ 5 สิ่งที่ไม่ควรทำในช่วงปิดเทอม

5 อุปนิสัย ที่คุณไม่ควรปล่อยให้เกิดขึ้น

1.  ปล่อยติดเกมงอมแงม

             คุณพ่อคุณแม่หลายๆท่านคงกำลังมีลูกที่ชอบเล่นเกมส์คอมพิวเตอร์กันจนถึงขั้นติดเกมส์ โดยเฉพาะในช่วงเวลาปิดเทอมแบบนี้ เด็กๆหลายๆคนคงจะกำลังสนุกเพลิดเพลินนั่งอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์เล่นเกมส์โปรดจนดึกดื่น การเล่นเกมคอมพิวเตอร์ไม่ใช่ เรื่องที่ผิด แถมยังช่วยพัฒนาสมองด้วย แต่อะไรที่มากเกินไปก็ไม่ดี เพราะจะทำให้ลูกๆของคุณหมกมุ่นอยู่ในโลกเสมือน ตัดขาดตัวเองจากโลกภายนอก แถมยังเสียสายตาอีกด้วย

 

2. อยู่ติดบ้านตลอดเวลา

          ครอบครัวสมัยใหม่ที่แต่ละบ้านแยกกันเป็นสัดส่วนทำให้ไม่สามารถปฏิสัมพันธ์กันได้มากนัก ทำให้เด็กๆไม่รู้จักการเข้าสังคมกับผู้อื่นและไม่ได้เรียนรู้กฏ กติกามารยาทเพื่อการอยู่ร่วมกัน การขาดทักษะทางด้านนี้จะทำให้เด็กๆกลายเป็นซึมเศร้า เข้าสังคมไม่เก่ง ซึ่งจะส่งผลถึงการพัฒนาทางด้านสมองต่อเนื่องจนถึงวัยรุ่นได้

 

3. ไม่ได้ใช้ความคิดสร้างสรรค์

            บางครอบครัวเห็นว่าการเรียนพิเศษที่ไม่ใช่วิชาการเช่น ดนตรี หรือ ศิลปะ ไม่มีความจำเป็นต่อการเรียนรู้ของลูก จึงไม่ได้ให้ความสำคัญกับสิ่งเหล่านี้มากนัก ซึ่งนับว่าพลาดมากๆเพราะจะทำให้เด็กๆขาดจินตนาการซึ่งถือเป็นเครื่องสำคัญของวัยเด็กที่จะทำให้พวกเขาเรียนรู้สิ่งต่างๆได้รวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

 

4. ไม่ได้ออกกำลังกาย

            พ่อแม่หลายๆท่านไม่ได้เป็นแฟนกีฬาหรือชื่นชอบการเล่นกีฬา อาจจะทำให้ลูกๆไม่ได้รับอานิสงค์นี้ไปด้วย แต่อย่างไรก็ตาม สำหรับเด็กๆแล้ว การได้ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอจะไม่เพียงแต่มีประโยชน์ทางด้านกายภาพเท่านั้น เพราะเมื่อเด็กๆได้ขยับกล้ามเนื้อและออกท่าทาง พวกเขาก็จะได้พัฒนาสมองของตัวเองไปด้วย

 

5. เรียนพิเศษมากเกินไป

            หลายๆบ้านเห็นว่าการปิดเทอมเป็นการเสียเวลาโดยเปล่าประโยชน์ จึงพยายามให้เด็กๆเรียนพร้อมๆกันทุกอย่าง ทั้งวิชาการและสันทนาการ จนทำให้เด็กๆอาจเกิดการเบื่อเรียนและมีพฤกติกรรมต่อต้านขึ้นมาได้ ซึ่งอาจจะส่งผลในระยะยาวต่อกระบวนการเรียนรู้ของพวกเขา

 

5 อุปนิสัย ที่คุณควรส่งเสริมให้เกิดการพัฒนา

1. เล่นเกมอย่างอื่นที่ไม่ใช่เกมคอมพิวเตอร์บ้าง

            เวลาเราพูดถึงเกม พ่อแม่ยุคไอทีอาจจะคิดไปถึงวีดีโอเกมหรือเกมคอมพิวเตอร์เท่านั้น แต่จริงๆแล้วการเล่นเกมนั้นยังสามารถรวมไปไปถึงบอร์ดเกม เช่น เกมเศรษฐีของจริงที่ไม่ได้อยู่แค่ในไลน์ เกมกระดานต่างๆอย่างหมากรุก หมากฮอส ที่จะเสริมสร้างการเรียนรู้ให้กับเด็กๆ การละเล่นสันทนาการต่างๆจะทำให้เด็กๆ มีปฏิสัมพันธ์อย่างแท้จริงซึ่งจะเสริมสร้างประสบการณ์ชีวิตและเพิ่มพูนทักษะต่างๆได้อย่างดี

 

2. มีกิจกรรมนอกบ้านบ้าง

            การออกไปเดินเล่น ยืดเส้นยืดสายบ้าง วิ่งแข่งหรือวิ่งจับเวลา การละเล่นดั้งเดิมเล่นนอกบ้าน ยกตัวอย่างเช่น วิ่งไล่จับ หรือ โยนรับห่วง จะทำให้เด็กๆเกิดการเรียนรู้ นอกจากนี้ยังช่วยเสริมสร้างสุขลักษณะนิสัยที่ดีสำหรับในอนาคต

 

3. พัฒนาทักษะความคิดสร้างสรรค์

            นอกจากทักษะการเรียนทางวิชาการแล้ว การเรียนรู้เพื่อเสริมสร้างความคิดสร้างสรรค์ก็จำเป็นเช่นกัน เช่น การปั้นดินน้ำมัน การต่อของเล่นด้วยตัวเอง การเล่นหาความหมายภาพ สิ่งเหล่านี้จะพัฒนาสมองอย่างต่อเนื่องและยังเป็นการใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์อีกด้วย

 

4. เพิ่มกิจกรรมทักษะทางการกีฬา

            พาลูกๆของคุณไปเรียนฟุตบอลสัปดาห์ละครั้ง หรือ เทคคอร์สตีกอล์ฟสำหรับเด็ก การเรียนว่ายน้ำโดยครูผู้ชำนาญ การออกกำลังกายอย่างถูกวิธีเพียงสัปดาห์ละไม่กี่ชั่วโมงก็เพียงพอแล้วสำหรับสุขภาพที่ดีในระยะยาว นอกจากนี้ลูกๆยังจะได้เรียนรู้น้ำใจนักกีฬา การเคารพกติกาและมารยาท ซึ่งเป็นพื้นฐานสำคัญสำหรับชีวิต

 

5. เสริมสร้างทักษะให้ถูกทาง

            การเรียนรู้แบบเดิมที่นั่งอยู่กับกระดาษเป็นวันๆอาจจะช่วยเพิ่มทักษะด้านใดด้านหนึ่งเท่านั้น แต่สำหรับเด็กๆวัยกำลังเรียนรู้และเติบโตเหมาะสำหรับการเรียนรู้แบบบูรณาการและประยุกต์ให้เข้ากับลักษณะนิสัยของพวกเขามากกว่า การเรียนรู้แบบมีปฏิสัมพันธ์และรวมหลายทักษะเข้าไว้ด้วยกันจะช่วยพัฒนาสมองอย่างชาญฉลาด คอร์สของ BrainFit จึงออกแบบมาโดยคำนึงถึงสิ่งเหล่านี้เป็นหลัก โดยคอร์ส Super Intensive English จะช่วยเพิ่มพูนทักษะการใช้ภาษาอังกฤษอย่างมีประสิทธิภาพ และคอร์ส Total Brain Fitness ที่จะช่วยเสริมสร้าง Cognitive Skill เป็นการพัฒนาสมองเพื่อเตรียมพร้อมกับการเรียนรู้ในอนาคต ช่วยในการประมวลผล และการเรียกใช้ความจำที่ต้องการได้อย่างรวดเร็ว

 

 

ขอรับคำปรึกษาได้ฟรี โทร 02-656-9938 – 9 

วันพฤหัสบดี-วันศุกร์ 091-774-3769

BrainFit จัดสัมนาเกี่ยวกับการพัฒนาสมอง และคอร์สระบบการฝึกของเรา อย่างสม่ำเสมอ **สำรองที่นั่งล่วงหน้า ที่นั่งมีจำนวนจำกัด**
หรือสามารถกรอกข้อมูลด้านล่าง เพื่อให้เจ้าหน้าที่สามารถทำการติดต่อได้ทันทีค่ะ

Contact Us

หากคุณสนใจคอร์สหรือต้องการข้อมูลเพิ่มเติมสามารถติดต่อเราได้เลย

BrainFit Studio Thailand ชั้น 2, อาคารเพลินจิตเซ็นเตอร์,
สุขุมวิทซอย 2, กทม. 10110BTS สถานีเพลินจิต ทางออก 4