5 กิจกรรมพัฒนาสมอง ที่บ้านในช่วง โควิด-19

ในช่วงนี้สถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส โควิด-19 ยังคงมีความรุนแรง และดูเหมือนมีแนวโน้มที่จะทวีความรุนแรงเพิ่มขึ้นไปเรื่อย ๆ ดังนั้นในช่วงนี้เด็ก ๆ หรือแม้กระทั่งตัวผู้ปกครองบางท่านเอง ก็มีความจำเป็นที่จะต้องเรียน หรือทำงานอยู่ที่บ้านใช่มั้ยละคะ

และเมื่อเด็ก ๆ ต้องเรียน หรืออยู่ที่บ้านเป็นเวลานาน ๆ ก็อาจจะทำให้พวกเขา ขาดโอกาสที่จะได้ไปวิ่งเล่น เรียนรู้สิ่งต่าง ๆ หรือทำกิจกรรมตามวัยที่ควรจะได้ทำ... ซึ่งหากเป็นเช่นนั้นคงไม่ส่งผลดีต่อพัฒนาการ และการพัฒนาทักษะด้านต่าง ๆ ของเด็ก ๆ เป็นแน่

ดังนั้นเพื่อไม่ให้การอยู่บ้านกลายมาเป็นอุปสรรคในการพัฒนาทักษะด้านต่าง ๆ ที่ควรจะเป็นของพวกเขา วันนี้ทางสถาบัน BrainFit จึงได้รวบรวม 5 กิจกรรมดี ๆ สำหรับพัฒนาทักษะสมองของน้อง ๆ อายุ 3-18 ปี ที่สามารถทำได้ง่าย ๆ ที่บ้านมาฝากกันค่ะ ถ้าอยากรู้แล้วว่าคืออะไร ไปอ่านกันต่อที่ด้านล่างนี้ได้เลยค่ะ!!

5 กิจกรรมพัฒนาสมอง

เด็กเล็ก( 3-6 ปี )

สำหรับเด็กเล็ก กิจกรรมที่ผู้ปกครองสามารถทำร่วมกันกับเด็ก ๆ เพื่อพัฒนาทักษะพื้นฐานสมองของพวกเขาที่ทางสถาบันแนะนำคือ

1. พาเด็ก ๆ วาดรูประบายสี หรืองานศิลปะ
การให้เด็ก ๆ ได้วาดรูป ระบายสี หรือทำงานศิลปะนั้น จะช่วยให้พวกเข้าได้พัฒนากล้ามเนื้อมัดเล็ก ที่ใช้ในการหยิบจับดินสอให้แข็งแรงมากขึ้น เมื่อได้ทำกิจกรรมอย่างต่อเนื่อง และสม่ำเสมอ ก็จะช่วยให้กล้ามเนื้อมัดเล็กตรงส่วนที่ได้ใช้งานแข็งแรงขึ้น คล่องแคล่วมากยิ่งขึ้น สิ่งนี้เองจะส่งผลให้เด็ก ๆ เขียนหนังสือได้ดีขึ้น แถมการวาดรูประบายสี หรืองานศิลปะ ยังช่วยพัฒนาเรื่องของความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ให้พวกเขาได้อีกทางหนึ่งด้วย

2. เล่นต่อบล็อกไม้
การต่อบล็อกไม้จะช่วยเสริมสร้างในเรื่องของความคิดสร้างสรรค์ให้กับเด็ก ๆ และยังช่วยฝึกในเรื่องของการกะระยะ การกะน้ำหนักมือในการวาง หรือต่อตัวต่อ และพัฒนาทักษะการทำงานประสานกันระหว่างตากับมือให้เด็ก ๆ ได้อีกทางหนึ่ง

3. การเล่นบทบาทสมมติ
การเล่นบทบาทสมมติจะช่วยฝึกในเรื่องของทักษะการสื่อสาร และการเข้าสังคมให้กับเด็ก ๆ ได้ เพียงแค่คุณพ่อ คุณแม่ลองสวมบทบาทเพื่อเล่นสนุกไปกับเด็ก ๆ ในระหว่างนั้นหากพวกเขาพูด แสดงออกทางอารมณ์ หรือทำสิ่งใดที่ไม่เหมาะสมก็ช่วยสอน และบอกสิ่งที่ควรทำให้พวกเขาด้วยความเข้าใจ เปิดโอกาสให้พวกเขาได้ใช้จิตนาการอย่างเต็มที่ขณะที่เล่นกับคุณ เพียงแค่นี้ ก็จะสามารถพัฒนาทักษะด้านอารมณ์ให้กับเด็ก ๆ ได้แล้ว แถมยังได้สร้างความผูกพันใกล้ชิดกับเด็ก ๆ ไปในตัวด้วย

4. เล่นเกมกระดานง่าย ๆ กับเด็ก ๆ
เกมนี้จะช่วยสอนเด็ก ๆ ในเรื่องของการเข้าใจ และทำตามกฎ กติกา ช่วยพัฒนาเรื่องของการวางแผน การคิดวิเคราะห์ แถมยังได้รับความสนุกสนานอีกต่างหาก

5. เล่านิทาน
การเล่านิทานให้เด็ก ๆ ฟัง จะช่วยสร้างความผูกพันระหว่างคุณกับลูกของคุณได้เป็นอย่างดี ประโยชน์ของการเล่านิทานนั้นมีอยู่มากมาย ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของการสอน และการให้แง่คิดดี ๆ กับเด็ก ๆ ว่าสิ่งไหนคือสิ่งที่ดีที่ควรทำ และสิ่งไหนคือสิ่งที่ไม่ดีไม่ควรทำ ผ่านเรื่องราวและผลลัพธ์ของตัวละครในแต่ละหน้าของนิทาน ช่วยเสริมสร้างทักษะทางด้านภาษา และช่วยพัฒนาความคิดสร้างสรรค์ให้เด็ก ๆ

กิจกรรมที่ช่วยพัฒนาทักษะพื้นฐานสมองของเด็ก ๆ มีมากมายหลากหลายมากกว่านี้อีกมาก ไม่ว่าจะเป็นกิจกรรมการปั้นดินน้ำมัน การร้อยลูกปัด การเล่นเกมที่เกี่ยวกับขนาด รูปร่าง และสีอย่างง่าย หรือแม้กระทั่งแค่เพียงคุณพ่อ คุณแม่หมั่นหาเวลามาพูดคุยกับเด็ก ๆ ให้มาก เพราะเด็กวัยนี้เป็นวัยที่ต้องการเวลา ความรัก และความอบอุ่นของผู้ปกครองเป็นอย่างมาก

เพียงแค่นี้ก็จะช่วยพัฒนาพวกเขาให้เติบโตขึ้นมาอย่างแข็งแรง และเป็นการใช้เวลายามว่างที่ต้องอยู่ที่บ้านเป็นเวลานาน ๆ ให้มีค่า และเป็นประโยชน์ต่อคุณพ่อ คุณแม่ และเด็ก ๆ ได้แล้ว

เด็กโต ( 7-18 ปี )

สำหรับเด็กโต กิจกรรมที่ผู้ปกครองสามารถทำร่วมกันกับเด็ก เพื่อพัฒนาทักษะพื้นฐานสมองของพวกเขาที่ทางสถาบันแนะนำคือ

1. ให้เด็กได้เรียนรู้สิ่งใหม่ หรือทักษะใหม่ ที่สร้างสรรค์
ในยามว่างหากจะให้เด็ก ๆ ได้ลองเรียนทักษะใหม่ เช่นเรียนภาษาที่ 2 ที่ 3 เรียนทำขนม หรือเรียนเต้น ไม่ว่าอะไรก็ตามที่เป็นทักษะใหม่ที่สร้างสรรค์ที่เด็ก ๆ อยากที่จะทำ หากคุณพ่อคุณแม่สามารถส่งเสริม และสนับสนุนพวกเขาได้ พวกเขาก็จะได้พัฒนาตนเองในด้านที่สนใจ และเป็นการใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์อีกด้วย

2. วาดรูประบายสี
แม้ว่าจะโตแล้วก็ตาม แต่กิจกรรมการวาดรูประบายสีก็ยังช่วยให้เด็ก ๆ ได้ใช้ และพัฒนาเรื่องของความคิดสร้างสรรค์อยู่ดี แถมการวาดรูประบายสียังช่วยให้เด็ก ๆ รู้สึกผ่อนคลาย และลดความเครียดที่จะต้องอยู่ติดที่บ้านเป็นเวลานาน ๆ ได้ด้วย

3. เล่นเกมกระดาน
เกมกระดานมีอยู่หลากหลายรูปแบบ และหลากหลายระดับความยากง่าย คุณพ่อคุณแม่สามารถเลือกเกมกระดานที่เหมาะกับวัยของเด็ก ๆ มาให้พวกเขาเล่น เพื่อเสริมสร้างการวางแผน การคิดวิเคราะห์ และการแก้ไขสถานการณ์ให้เด็ก ๆ ได้ ตัวอย่างเกมสำหรับเด็กโตก็เช่น หมากรุก หมากฮอส เกมครอสเวิร์ด เป็นต้น

4. ใช้เวลาร่วมกัน
ถึงแม้ในวัยนี้จะเป็นวัยที่ต้องการเวลาจากคุณพ่อคุณแม่ลดลงมากกว่าวัยเด็ก แต่ก็ไม่ควรที่จะเว้นช่องว่าง และระยะห่างของความสัมพันธ์มากจนเกินไป เพราะสิ่งนี้อาจทำให้เด็ก ไม่กล้าที่จะพูดคุย ปรึกษา และเห็นคุณเป็นบ้าน และที่พักพิงของพวกเขา สิ่งที่คุณพ่อคุณแม่ควรทำคือจัดสรรเวลาว่าในแต่ละวัน หรือแต่ละสัปดาห์ ให้เป็นเวลาของครองครัว ที่ทุกคนจะต้องวางมือจากงาน หรือสิ่งที่ตัวเองทำในช่วงเวลานั้นมาใช้เวลาร่วมกัน

ส่วนกิจกรรมที่ทำร่วมกันได้นั้นก็มีมากมายเลย ไม่ว่าจะเป็นการทำอาหาร ปลูกต้นไม้ ดูหนัง ร้องเพลง หรือหากคุณพ่อคุณแม่ท่านไหนไม่มีเวลาจริง ๆ ก็สามารถทำช่วงเวลาทานอาหารสักมือ ให้เป็นช่วงเวลาของครอบครัว ที่ทุกคนจะได้หัวเราะ พูดคุย และได้แบ่งปันเรื่องราวต่าง ๆ ที่ตัวเองได้พบเจอมาให้ทุกคนฟัง เพียงเท่านี้ก็จะช่วยสร้างสายใย ความรัก ความผูกพันระหว่างคุณ และเด็ก ๆ ได้แล้ว

5. ออกกำลังกาย
เมื่อหยุดอยู่บ้านนาน ๆ สิ่งที่คุณพ่อคุณแม่และเด็ก ๆ ต้องเผชิญก็คือการที่คุณ และเด็ก ๆ ได้เคลื่อนไหว หรือขยับร่างกายน้อยลง ซึ่งสิ่งนี้ไม่ดีต่อทั้งการทำงานของสมอง และสุขภาพร่างกายของเด็ก ๆ เป็นแน่ เพราะฉะนั้นจึงควรจัดสรรเวลาการออกกำลังกายสัก 3-5 วันต่อสัปดาห์ ให้กับทั้งตัวคุณ และเด็ก ๆ ด้วยการเลือกการออกกำลังกายที่สำหรับพื้นที่ที่คุณมีเพียงแค่นี้ทั้งคุณ และเด็ก ๆ ก็จะมีสมองที่ปลอดโปร่ง และร่างกายที่แข็งแรงขึ้นแล้ว

และสุดท้ายนี้ไม่ว่าลูกของคุณ จะเป็นเด็กเล็ก หรือเด็กโต ทางสถาบันก็ขอแนะนำให้จำกัดเวลาการใช้หน้าจอของเด็ก ๆ ให้เหมาะสม และจัดสรรเวลานอนให้เพียงพอต่อร่างกาย เพื่อให้พวกเขาสามารถพัฒนาศักยภาพ และเติบโตอย่างสมวัย แม้ต้องอยู่บ้านเป็นเวลานาน ๆ

ที่ BrainFit เรามีคอร์สฝึกสมองรอบด้าน สำหรับน้อง ๆ อายุ 3-18 ปี ที่จะช่วยพัฒนาทักษะพื้นฐานสมองทั้ง 5 ด้านไม่ว่าจะเป็น การเคลื่อนไหว การมอง การฟัง สมาธิ รวมถึงเรื่องของอารมณ์ ให้แข็งแรง ผ่านการทำกิจกรรมที่สนุก และหลากหลาย เพื่อให้พวกเขาสามารถพัฒนาทักษะด้านต่าง ๆ เหล่านี้ได้ แม้ต้องหยุดอยู่บ้านเป็นเวลานาน ๆ