3 เทคนิคดับ อารมณ์ร้อน เพิ่มอารมณ์เย็นให้ลูกรัก

คุณพ่อคุณแม่ทราบหรือไม่คะว่า สาเหตุหนึ่งที่ทำให้เด็กกลายเป็นคนที่มี อารมณ์ร้อน ส่วนหนึ่งมาจากการเลี้ยงดู ซึ่งการเลี้ยงดูที่ส่งผลให้เด็ก ๆ กลายเป็นคนที่อารมณ์ร้อน และไม่สามารถรอคอยได้มีอยู่ด้วยกัน 2 แบบค่ะ

" หนึ่งเลยก็คือ การเลี้ยงดูที่ตามใจลูกมากจนเกินไป และสองคือ การเลี้ยงดูที่เข้มงวดกับลูกเกินไป "

แล้วทำไมการเลี้ยงดูทั้งสองแบบนี้จึงส่งผลให้เด็ก อารมณ์ร้อน ได้ละ?

การเลี้ยงดูแบบตามใจลูกมากเกินไป

การเลี้ยงดูที่ตามใจลูกมากเกินไป จะส่งผลให้เด็กไม่สามารถอดทนรอคอยอะไรนาน ๆ ได้ และมักจะเอาตนเองเป็นจุดศูนย์กลางของทุกสิ่ง และเมื่อมีอะไรขัดใจ หรือไม่ได้ดั่งใจ เด็ก ๆ จะเลือกแสดงพฤติกรรมก้าวร้าว โมโหออกมา เพื่อให้ได้ในสิ่งที่ตนต้องการ และการเลี้ยงดูแบบนี้จะส่งผลให้เด็กไม่สามารถอดทนรอคอย หรือทำงานที่ได้รับมอบหมายได้สำเร็จตามไปด้วย

การเลี้ยงดูแบบเข้มงวดกับลูกมากเกินไป

การเลี้ยงดูแบบเข้มงวดกับลูกมากเกินไป การเลี้ยงดูแบบนี้ในช่วงแรก ๆ เด็ก ๆ อาจจะทำตามที่คุณบอก หรือให้ความร่วมมือกับคำสั่งของคุณ แต่หากคุณพ่อคุณแม่ท่านไหนยังคงเลี้ยงดูแบบนี้ไปเรื่อย ๆ นานวันเข้า เมื่อลูก ๆ ของคุณเริ่มโตขึ้น พวกเขาก็จะค่อย ๆ เริ่มต่อต้านคุณ เพราะพวกเขาอยากที่จะเอาชนะคุณ เมื่อเกิดการต่อต้านขึ้นมา พฤติกรรมที่เด็ก ๆ จะเลือกแสดงออก และปฏิบัติกับคุณจะเป็นการร้องไห้อาละวาด ขว้างปาข้าวของ หรืออาจแสดงพฤติกรรมที่รุนแรงต่อคุณพ่อคุณแม่เพื่อให้เขากลายเป็นผู้ชนะ

ดังนั้นแล้วหากคุณพ่อคุณแม่ท่านไหนที่อ่านมาจนถึงบรรทัดนี้แล้ว แล้วรู้สึกว่าตัวเองเลี้ยงดูลูก ๆ แบบตามใจมากเกินไป หรือเข้มงวดกับพวกเขามากเกินไป ควรรีบปรับเปลี่ยนวิธีการดูแล และเลี้ยงดูพวกเขาอย่างเร่งด่วนเลยนะคะ เพื่อป้องกันไม่ให้เด็ก ๆ มีอารมณ์ที่ใจร้อน และรุนแรง

แต่ถ้าหากเด็ก ๆ เกิดอารมณ์ใจร้อน และรุนแรง เกิดติดเป็นอารมณ์ และนิสัยของเด็ก ๆ ไปแล้ว วันนี้นอกจากการปรับเปลี่ยนวิธีการเลี้ยงดูพวกเขา ทางสถาบันก็ได้นำเอาเทคนิคดี ๆ อีก 3 ข้อมาบอกเล่า เพื่อช่วยให้คุณพ่อคุณแม่สามารถแก้ไข และปรับเปลี่ยนอารมณ์ และพฤติกรรมของเด็ก ๆ ให้เป็นไปในทางที่ใจเย็นลงได้ เราไปดูกันเลยดีกว่าค่ะว่ามีอะไรบ้าง?

3 เทคนิคดับ อารมณ์ร้อน เพิ่มอารมณ์เย็นให้ลูกรัก

1. ไม่ตามใจ หรือตอบโต้เมื่อเด็กร้องไห้โวยวาย

การที่เด็กเกิดร้องไห้ หรือโวยวายเมื่อพวกเขาต้องการสิ่งใด หรือไม่อยากทำสิ่งใด แล้วผู้ปกครองตอบสนองพวกเขาด้วยการตามใจจะทำให้เด็ก ๆ ติดเป็นนิสัย และคิดว่าวิธีการร้องไห้งอแง หรือการโวยวายเมื่อต้องการสิ่งใด หรือไม่อยากทำสิ่งใดเป็นวิธีการที่ใช้ได้ผล และทำให้ตัวเองได้ในสิ่งที่ต้องการ เมื่อเด็กเกิดการเรียนรู้แบบนี้แล้วในครั้งหน้า เมื่อพวกเขาต้องการสิ่งใด หรือไม่อยากได้ในสิ่งใด พวกเขาก็จะทำมันซ้ำ ๆ

หรือในกรณีที่บ้านไหนเข้มงวดกับเด็ก ๆ หากคุณเลือกวิธีการที่จะโต้เถียง เพื่อตอบโต้เมื่อเด็กแสดงพฤติกรรมร้องไห้โวยวาย เด็ก ๆ ก็จะยิ่งร้องหนักขึ้น เพื่อต้องการเอาชนะคุณ เมื่อถึงตอนนั้นหากไม่มีใครยอมใคร เรื่องราวก็คงจะบานปลายไปกันใหญ่ และสิ่งเหล่านี้อาจะส่งผลต่อความสัมพันธ์ของคุณ และลูก ๆ ในอนาคตได้อย่างแน่นอน

สิ่งที่คุณพ่อคุณแม่ควรทำเมื่อเด็กมีพฤติกรรมเหล่านี้คือการไม่ตามใจ หรือตอบโต้พวกเขากลับด้วยความรุนแรง ปล่อยให้เด็ก ๆ สงบลงก่อน แล้วเข้าไปพูดคุยอธิบายถึงเหตุผล และสิ่งที่เด็ก ๆ ความทำอย่างใจเย็น และใช้ถ้อยคำที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความรัก และความหวังดี หากทำแบบนี้ไปเรื่อย ๆ เพียงเท่านี้ ก็จะช่วยลดอารมณ์ร้อน และเพิ่มอารมณ์เย็นให้เด็ก ๆ ได้แล้วค่ะ

2. หามุมสงบ ๆ ไว้สำหรับให้เด็ก ๆ สงบใจ

คุณพ่อคุณแม่อาจจะลองหาสักมุมในบ้าน หรือสอบถามเด็ก ๆ ว่าชอบมุมใดส่วนใดของบ้าน แล้วทำสถานที่นั้นให้น่านั่งน่าอยู่ เอาไว้สำหรับให้เด็ก ๆ ได้เข้าไปนั่งสงบจิตสงบใจ เมื่อพวกเขารู้สึกโกรธ หรือโมโห แล้วบอกเด็ก ๆ ว่าหากลูกโมโห ลูกก็สามารถเข้ามานั่งที่มุมนี้เพื่อทำให้ตัวเองอารมณ์ดีขึ้นได้นะ เมื่อเราหายโกรธหายโมโหเมื่อไหร่ เราค่อยกลับมาพูดคุยกันอีกครั้ง การทำแบบนี้ก็จะช่วยลดการปะทะ และทำให้ลูก ๆ มีวิธีการดี ๆ อีกหนึ่งวิธีในการควบคุม หรือจัดการอารมณ์โกรธของพวกเขา

3. หายใจเข้าใจออกลึก ๆ หรือทำสมาธิ

การสอนให้ลูก ๆ หายใจเข้าหายใจออกลึก ๆ เวลาโกรธ การทำแบบนี้จะทำให้เด็ก ๆ ใจเย็นลง และกลับมามีสติมากขึ้นอีกครั้ง เมื่อเด็ก ๆ มีสติมากขึ้น ก็จะไม่ถูกอารมณ์ที่กำลังปะทุครอบงำจนอาจเผลอทำพฤติกรรมที่ไม่ดีลงไปได้แล้วละค่ะ และการทำสมาธิวันละ 5 นาทีก่อนนอน จะช่วยลดความหุนหันพลันแล่น ความใจร้อน และช่วยให้เด็ก ๆ จัดการกับอารมณ์ของตัวเองได้ดีมากยิ่งขึ้นอีกด้วย

และนี้ก็คือเทคนิคที่ช่วยดับอารมณ์ร้อน และเพิ่มอารมณ์เย็นทั้ง 3 ข้อที่ทางสถาบันได้นำมาฝากคุณในวันนี้ ทางสถาบันก็หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์ต่อคุณ และคนที่คุณรักไม่มากก็น้อยนะคะ

ที่ BrainFit เรามีคอร์สฝึกสมองรอบด้านที่จะช่วยพัฒนาทักษะพื้นฐานสมองที่จำเป็นต่อการเรียนรู้สิ่งต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นการเคลื่อนไหว การฟัง การมอง สมาธิ รวมถึงเรื่องของอารมณ์ ที่จะสอนให้เด็ก ๆ ได้เรียนรู้ และทำความเข้าใจกับอารมณ์ต่าง ๆ ของตัวเองและผู้อื่นมากขึ้น รวมถึงสอนให้พวกเขาเรียนรู้ที่จะจัดการ และเเสดงออกทางอารมณ์เหล่านั้นอย่างเหมาะสม