3 เคล็ดลับ แก้ไขอาการขี้ลืมในเด็ก

 

3 เคล็ดลับ แก้ไขอาการขี้ลืมในเด็ก 

 

 

เพิ่มเพื่อน

 

 

หากคุณมีลูกที่มีอายุอยู่ในช่วง 3-6 ปี และมักแสดงอาการหลงลืมให้คุณเห็นบ่อยครั้ง ไม่ว่าจะเป็น 

  • ลืมสิ่งที่คุณเพิ่งบอกเขาไปเมื่อไม่กี่นาทีก่อน 
  • ลืมของไว้ที่โรงเรียน 
  • ลืมไปแล้วว่าวันนี้จะต้องทำอะไรบ้าง?

 

สิ่งเหล่านี้อาจทำให้คุณรู้สึกเป็นห่วง และกังวลว่าอาการเหล่านี้จะกระทบการเรียน และการใช้ชีวิตของเด็กในอนาคตหรือไม่ แล้วเราจะสามารถแก้ไข หรือช่วยให้อาการเหล่านี้ดีขึ้นได้อย่างไรใช่ไหมล่ะคะ?

 

 

หากเป็นเช่นนั้น วันนี้เราจะมาไขข้อข้องใจให้กับคุณด้วยบทความนี้ ถ้าพร้อมแล้ว ไปอ่านต่อกันเล้ย!!!

 

 

"การมีอาการขี้ลืมในเด็กวัย 3-6 ขวบนั้น ถือเป็นเรื่องปกติ เนื่องจากสมองของคนเรามีการเจริญเติบโต

และพัฒนามาตั้งแต่เราอยู่ในครรภ์ของมารดา แต่การพัฒนาและเจริญเติบโตของสมองจะยังไม่สมบูรณ์"

 

เมื่อเราคลอดออกมา สมองของเราจะพัฒนาและเติบโตอย่างรวดเร็วในช่วง 3 ปีแรกของชีวิต จะเจริญเติบโต และพัฒนาด้วยความเร็วที่ลดลง แต่ยังถือว่าเจริญเติบโตมากอยู่ในช่วงอายุ 3-6 ปี 

 

โดยในช่วงที่สมองส่วนใหญ่ของเด็กอยู่ในช่วงกำลังพัฒนานี้ สมองของพวกเขายังแข็งแรง และทำงานได้ไม่เต็มที่เพียงพอ ด้วยเหตุนี้จึงส่งผลให้เด็ก ๆ เกิดอาการหลงลืมให้เราเห็นได้บ่อยครั้งนั่นเอง ซึ่งอาการขี้ลืมนี้จะค่อย ๆ พัฒนา และดีขึ้นตามวัยที่มากขึ้นของเด็ก ๆ 

 

และเพื่อส่งเสริมให้เด็ก ๆ มีทักษะการจดจำที่ดีขึ้น! วันนี้ทางสถาบันจึงได้นำเอา 5 เคล็ดลับดี ๆ มาบอกต่อค่ะ มาร่วมกันหาคำตอบที่ด้านล่างนี้ได้เลยค่ะ!!!

 

เพิ่มเพื่อน

 

3 เคล็ดลับ แก้ไขอาการขี้ลืมในเด็ก

 

 นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ 


ช่วงเวลาที่เด็ก ๆ นอนหลับ สมองจะทำการบันทึก และจดจำสิ่งต่าง ๆ ที่เด็ก ๆ ได้เรียนรู้มาเก็บบันทึกไว้ในความทรงจำ ดังนั้นการให้เด็ก ๆ นอนหลับพักผ่อนอย่างเพียงพอ ก็จะช่วยให้พวกเขาจดจำสิ่งต่าง ๆ ที่ได้เรียนรู้ ได้พบเจอได้ดีขึ้น เวลาต้องเรียนความจำเหล่านี้มาใช้ ก็จะง่ายสำหรับเด็ก ๆ มากยิ่งขึ้นตามไปด้วย

 

 

 ทำ Checklist 


ทำใบ Checklist เพื่อตรวจสอบสิ่งที่เด็ก ๆ จะต้องทำในแต่ละวัน หรือตรวจสอบสิ่งของที่เด็ก ๆ จะต้องนำไปที่โรงเรียน และสิ่งที่ต้องนำกลับบ้าน อาจจะทำออกมาในรูปแบบของรูปภาพ เพื่อให้เด็ก ๆ เข้าใจง่าย สิ่งนี้จะช่วยให้เด็ก ๆ หลงลืมสิ่งที่ต้องทำ หรือสิ่งที่ต้องเตรียมไปโรงเรียน หรือเตรียมกลับบ้านให้น้อยลงได้

 

 

 ออกกำลังกาย 


การออกกำลังกายจะช่วยให้สมองส่วน ฮิปโปแคมปัส (Hippocampus) ถูกกระตุ้นพัฒนามากขึ้น ซึ่งเจ้าสมองส่วนนี้ทำหน้าที่เกี่ยวกับความจำ หากเราออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ สิ่งนี้จะช่วยให้เรามีสมองที่สามารถจดจำสิ่งต่าง ๆ ได้อย่างแม่นยำตามไปด้วยนั่นเอง

 

 

หรือเลือกพัฒนาสมองด้วยคอร์ส ฝึกสมองทุกด้านกับทาง BrainFit โดยคอร์สนี้จะช่วยพัฒนาทักษะสมองด้านการเคลื่อนไหว การมอง การฟัง สมาธิ รวมถึงเรื่องของอารมณ์ให้กับเด็ก ๆ ซึ่งแน่นอนว่าถ้าหากทักษะทั้ง 5 ด้านที่กล่าวมาของเด็ก ๆ แข็งแรง สมบูรณ์มากขึ้นแล้ว ก็จะช่วยให้พวกเขามีสมาธิจดจ่อ และจดจำสิ่งต่าง ๆ ที่ได้เรียนรู้ดีขึ้นตามไปด้วย

 

 


นี้ก็คือทั้งหมดที่เรานำมาฝากคุณในวันนี้ ก็หวังว่าคุณจะนำเอา 3 เคล็ดลับดี ๆ ที่ช่วยเพิ่มความจำให้กับเด็ก ๆ ไปปรับใช้กันเยอะ ๆ นะคะ เพื่อให้พวกเขามีความจำที่ดีขึ้นกว่าที่เคย 

 

 


BrainFit รับสมัครน้อง ๆ อายุตั้งแต่ 3-18 ปี

 

 
 
------------------

ติดต่อขอทดลองเรียน ฟรี!

จันทร์ อังคาร พุธ เสาร์ และ อาทิตย์  

02-656-9938 / 02-656-9939 / 091-774-3769

วันพฤหัสบดี-วันศุกร์  091-774-3769

LINE: @brainfit_th

เพิ่มเพื่อน

 

อ้างอิง: www.trueplookpanya.com
 

Contact Us

หากคุณสนใจคอร์สหรือต้องการข้อมูลเพิ่มเติมสามารถติดต่อเราได้เลย

BrainFit Studio Thailand ชั้น 2, อาคารเพลินจิตเซ็นเตอร์,
สุขุมวิทซอย 2, กทม. 10110BTS สถานีเพลินจิต ทางออก 4