อาหารเสริมสำหรับสมาธิสั้นได้ผลจริงหรือ?

 

อาหารเสริมแก้สมาธิสั้น ได้ผลจริงหรือ?

           

ปัจจุบันมีโฆษณาอาหารเสริมมากมาย ที่อ้างว่าเป็น "อาหารเสริมแก้สมาธิสั้น" และมีสรรพคุณช่วยแก้อาการสมาธิสั้นดีขึ้น ซึ่งข้อเท็จจริงนั้น อาหารเสริมเหล่านี้ไม่ได้มีผลช่วยให้สมาธิของเด็กดีขึ้นเลย วันนี้เรามีสาระเกี่ยวกับเรื่องนี้มาฝากค่ะ

                การวิจัยในปัจจุบันพบว่า เด็กที่เป็นโรคสมาธิสั้นมีความบกพร่องหรือมีปริมาณสารเคมีที่สำคัญบางตัว (dopamine, noradrenaline) ในสมองน้อยกว่าเด็กปกติ โดยมีกรรมพันธุ์เป็นปัจจัยที่สำคัญประมาณ 30-40 %  ของเด็กสมาธิสั้นจะมีสมาชิกในครอบครัวคนใดคนหนึ่งเป็นโรคสมาธิสั้นด้วยหรือมีปัญหาอย่างเดียวกัน ปัจจัยจากการเลี้ยงดูหรือสิ่งแวดล้อมเป็นเพียงปัจจัยเสริมที่ทำให้อาการหรือความผิดปกติดีขึ้นหรือแย่ลง แต่ไม่ใช่สาเหตุหลัก มารดาที่ขาดสารอาหาร ดื่มสุรา สูบบุหรี่ หรือถูกสารพิษบางชนิด (เช่น ตะกั่ว) ในระหว่างตั้งครรภ์ จะมีโอกาสมีลูกเป็นโรคสมาธิสั้นสูงขึ้น

           แล้วอาหารเสริมที่บอกว่าช่วยให้อาการสมาธิสั้นดีขึ้นเข้าไปช่วยตรงไหนล่ะ คำตอบคือ อาหารเสริมนั้นไม่ได้ช่วยให้สาเหตุของอาการสมาธิสั้นดีขึ้นได้จริง เพียงแต่เป็นวิตามินบำรุงประสาทเท่านั้น หากรับประทานอาหารครบ 5 หมู่อย่างเพียงพอ ดื่มน้ำอย่างน้อยวันละ 8 แก้ว ก็ไม่จำเป็นต้องพึ่งอาหารเสริมที่อวดอ้างสรรพคุณเกินจริง เพราะในวัยเด็กต้องการสารอาหารเพื่อการเจริญเติบโตมากกว่า

ปัจจุบันการรักษาเด็กสมาธิสั้นที่มีประสิทธิภาพดีที่สุด คือ การผสมผสานการรักษาหลายๆด้าน ดังต่อไปนี้เข้าด้วยกัน

     1. การรักษาด้วยยาตามแพทย์สั่ง

     2. การปรับเปลี่ยนพฤติกรรม ฝึกพัฒนาการ และการช่วยเหลือทางด้านจิตใจสำหรับเด็กและครอบครัว

     3. การช่วยเหลือทางด้านการเรียน

ข่าวดีคือ ถ้าเรารู้แล้วว่าอาการสมาธิสั้นนั้นมีสาเหตุจากปริมาณสารเคมีบางตัวในสมองน้อยเกินไป เราจะสามารถเพิ่มมันได้อย่างไร

ตามหลักประสาทวิทยา พบว่า การฝึกพัฒนาการด้านต่าง ๆ ของสมองให้แข็งแรง สามารถช่วยให้อาการสมาธิสั้นที่เป็นปลายเหตุนั้นดีขึ้น เพราะสมองมีการเพิ่มจุดเชื่อมโยงเซลล์ประสาทที่มากขึ้น ทำให้สารเคมีในสมองสมดุลมากยิ่งขึ้น การฝึกพัฒนาการสมองให้เป็นไปอย่างสมวัย จึงเป็นทางเลือกหนึ่งของผู้ปกครองที่อยากจะให้ลูกรักมีสมาธิที่ดีขึ้น

 

 

 

อาการสมาธิแก้ได้ หากฝึกอย่างถูกวิธี

 

 

ที่ BrainFit เราพร้อมแล้วที่จะเป็นส่วนหนึ่งในการดูแลลูกรักของท่านโดยไม่ต้องทานยา หรือพึ่งอาหารเสริม สามารถขอรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เบอร์ 02-656-9938 / 02-656-9939 / 091-774-3769

หรือ Line: @brainfit_th (มี @ ข้างหน้า)

 

 

แหล่งข้อมูล : http://www.si.mahidol.ac.th/sidoctor/e-pl/articledetail.asp?id=393

Contact Us

หากคุณสนใจคอร์สหรือต้องการข้อมูลเพิ่มเติมสามารถติดต่อเราได้เลย

BrainFit Studio Thailand ชั้น 2, อาคารเพลินจิตเซ็นเตอร์,
สุขุมวิทซอย 2, กทม. 10110BTS สถานีเพลินจิต ทางออก 4