ลูกอ่อนไหว เป็นเพราะประสาทสัมผัสไวกว่าปกติ !?
รู้หรือไม่ หาก ลูกอ่อนไหว ง่าย sensitive ไม่ได้หมายความว่าเขาจะเป็นคนอ่อนแอ แท้จริงแล้วเด็กที่มีอารมณ์อ่อนไหวง่าย คือเด็กที่มีระบบประสาทสัมผัสทั้งห้าตอบสนองไวกว่าเด็กทั่วไปค่ะ การเปลี่ยนแปลงรอบตัวเพียงเล็กน้อย ก็เป็นแรงกระตุ้นให้เด็ก ๆ คิดมากและเกิดความเครียดได้ ?
Elaine Aron นักจิตวิทยาและผู้เขียนหนังสือ The High Sensitive Child กล่าวว่า เด็กที่มีความอ่อนไหวสูงจะมีระบบประสาทสัมผัสที่ตื่นตัวและตอบสนองรวดเร็วและมากกว่าปกติ ทั้งนี้ทั้งนั้นไม่มีผลในแง่ลบต่อพัฒนาการเด็ก ๆ แต่อย่างใดนะคะ
ภาวะที่เด็ก ๆ มีประสาทสัมผัสที่ไวต่อการรับความรู้สึก หรือที่เราเรียกว่า “Sensory defensiveness” นั้นคือภาวะที่ไวต่อการรับความรู้สึกต่อกลิ่น แสง รสชาติ การรับสัมผัส การเคลื่อนไหว การได้ยิน เช่น
? ไม่อยากให้มือเลอะ เปื้อน สกปรก โดยเฉพาะ มือ เท้า ใบหน้า
? ระคายเคืองต่อป้ายแท็กคอเสื้อ ป้ายขอบเองกางเกง ไม่ยอมสวมเสื้อผ้าใหม่ ต้องทำให้เสื้อผ้ามีเนื้อผ้าที่นิ่มก่อนใส่
? ไม่ชอบเล่นเครื่องเล่นที่มีการเคลื่อนไหว เช่น ม้าหมุน ชิงช้า จะพยายามหลีกเลี่ยงการยืนเดินบนพื้นที่ไม่มั่นคง
? ชอบรับประทานอาหารเดิมซ้ำ ๆ ไม่ชอบลองอาหารที่มีรสชาติหลากหลาย รสชาติใหม่ ๆ
? ไม่ชอบการสัมผัสที่เกิดขึ้นโดยไม่คาดคิด เช่น การกอด หอมแก้ม
เป็นต้น
ซึ่งหากลูกรักมีอาการดังกล่าวข้างต้น จะอาจส่งผลต่อลูกรักดังนี้
? ทำให้เป็นรู้สึกกังวล กลัว รู้สึกไม่ปลอดภัยต่อผู้คน และการทำกิจกรรม
? ขาดความสามารถในการควบคุมอารมณ์ หงุดหงิดง่าย
? ทำให้ขาดความสามารถในการควบคุมตัวเอง และการเข้าสังคม
? ทำให้ขาดโอกาสในการเรียนรู้จากปัญหา และการปรับตัวจากสิ่งแวดล้อมที่หลากหลาย
? เกิดแรงจูงใจอยากจะหนีจากสิ่งเร้า ทำให้เป็นเด็กเก็บตัว อยู่แต่ในบ้าน
? ดิสแพร็กเซีย (Dyspraxia) เช่น มีการวางแผนการเคลื่อนไหวที่ไม่ดี ทำให้เกะกะ เก้งก้าง และไม่สัมพันธ์กัน ใส่เสื้อผ้าเองลำบาก เรียนรู้ต่อกิจกรรมใหม่ได้ช้า
อย่างไรก็ตามหากพฤติกรรมเหล่านี้มีบ้างเล็กน้อย ไม่ได้ส่งผลกระทบกับการดำเนินชีวิต เด็ก ๆ ก็จะเรียนรู้ และปรับตัวต่อสิ่งแวดล้อมนั้น ๆ ได้เองในที่สุด แต่ในเด็กบางคนที่มีพฤติกรรมหลีกหนีต่อสิ่งเร้ามาก จนส่งผลกระทบต่อการดำเนินชีวิต เด็กอาจต้องได้รับการช่วยเหลือจากนักกิจกรรมบำบัด เพื่อปรับกิจกรรม สิ่งแวดล้อม ให้เขาสามารถดำเนินชีวิตได้อย่างมีความสุขมากขึ้น
BrainFit Studio มีกิจกรรมที่เหมาะสำหรับเด็กอายุ 3-18 ปี ซึ่งช่วยพัฒนาทักษะการเคลื่อนไหวและการทรงตัวของร่างกายให้เด็กสามารถควบคุมร่างกายให้เป็นไปได้ตามต้องการ ประกอบกับกิจกรรม Daily Brushing ที่จะช่วยกระตุ้นการรับส่งข้อมูลจากระบบสัมผัสทางผิวหนังและการรับรู้ของร่างกายไปยังสมองของเด็กให้ดีขึ้น ส่งผลให้เด็กมีสมาธิและสามารถจดจ่อกับการทำกิจกรรมต่าง ๆ ได้อย่างเต็มศักยภาพ สนุกกับการเรียนรู้ และใช้ชีวิตประจำวันได้อย่างมีความสุขมากขึ้น ?
พัฒนาสมาธิ และทักษะการเรียนรู้ให้ดีขึ้น ที่ BrainFit
ติดต่อเราได้เลยวันนี้!
จันทร์ อังคาร พุธ เสาร์ และ อาทิตย์
02-656-9938 / 02-656-9939 / 02-656-9915
วันพฤหัสบดี-วันศุกร์ 091-774-3769
อ้างอิง : MCแม่และเด็ก , amarinbabyandkids และ https://aboutmom.co.