ลูกรัก จำเก่ง วิเคราะห์ไว ผ่านเทคนิคนี้!?

ลูกรัก จำเก่ง วิเคราะห์ไว ผ่านเทคนิคนี้!?
 

 

“อยากให้ลูก จำเก่ง ๆ เพราะน้องขี้ลืมมากเลยค่ะ ทำยังไงได้บ้างคะ”
 

 

คำถามยอดฮิตของผู้ปกครองหลาย ๆ คน เรามีคำตอบมาฝากค่ะ

 

ทักษะ จำเก่ง วิเคราะห์ไว 


เป็นทักษะที่จำเป็นทั้งในเรื่องการใช้ชีวิตประจำวัน การงาน รวมไปถึงการเรียน ทักษะนี้จะขึ้นอยู่กับพัฒนาการของเด็กแต่ละช่วงวัย และการฝึกฝนอย่างถูกวิธีเพื่อเพิ่มเป็นทักษะขั้นสูงของเด็ก ๆ ต่อไป

 

ทาง  BrainFit จึงได้รวบรวมข้อมูลทั้งในเรื่องพัฒนาการของเด็กแต่ละช่วงวัย

และเทคนิคต่าง ๆ ที่ช่วยลดความกังวลของคุณพ่อคุณแม่เบื้องต้นมาฝากค่ะ

 

1. พัฒนาการด้านสติปัญญา (ความจำ การวิเคราะห์ข้อมูล) ของเด็ก ๆ แต่ละช่วงวัย 

 

  • วัยอนุบาล (4 - 6 ปี) 

เด็ก ๆ ในช่วงวัยนี้เป็นวัยที่อยากรู้อยากลอง มีการตั้งคำถามและมีความต้องการทำสิ่งใหม่ ๆ มากขึ้น เช่น กิจกรรมศิลปะจากใบไม้ กิจกรรมตัดแปะรูป ซึ่งแต่ละคนมีประสบการณ์การมองรูปต่าง ๆ แตกต่างกัน ทำให้ภาพที่ออกแบบมาต่างกันไป นั่นก็เรียกได้ว่าเป็นการวิเคราะห์ข้อมูลจากประสบการณ์โดยตรงของเด็ก ๆ ค่ะ บางคนอาจจะตัดแปะใบไม้เป็นรูปกระต่าย บางคนเป็นรูปผีเสื้อ ซึ่งจะเห็นได้ชัดว่าเด็ก ๆ ช่วงวัยนี้เริ่มวิเคราะห์ข้อมูลผ่านการมองในเบื้องต้นได้มากขึ้น หรือในขณะที่เด็ก ๆ ตั้งคำถาม และพยายามหาคำตอบด้วยการถาม หรือการกระทำ ซึ่งนั่นก็เป็นขั้นแรกที่เด็กจะเริ่มฝึกวิเคราะห์และเสริมสร้างความคิดสร้างสรรค์ของสิ่งที่ได้รับมาโดยที่ไม่รู้ตัวเลยค่ะ 

 

  • วัยประถม (7 - 12 ปี)

วัยนี้เป็นวัยที่เริ่มเจอประสบการณ์ใหม่ ๆ มีเพื่อน มีสังคมใหม่ ๆ และยังมีความเข้มข้นทางด้านการเรียนเชิงวิชาการเพิ่มมากกว่าวัยอนุบาล ซึ่งเรียกว่าเป็นช่วงวัยที่จะเกิดพฤติกรรมที่หลากหลายมากขึ้น ทั้งทางบวกและทางลบ เป็นช่วง Critical Period เลยก็ว่าได้ เด็กวัยนี้เจอผู้คนมากมาย รับข้อมูลทุก ๆ ด้าน หากสมองส่วนการวิเคราะห์ข้อมูลและการประมวลผล (Prefrontal Cortex) ยังไม่แข็งแรงมากพอ อาจจะส่งผลให้เกิดเป็นพฤติกรรมเลียนแบบ เช่น เลียนแบบเกมที่เล่น เลียนแบบพฤติกรรมและคำพูดเชิงลบมาโดยไม่รู้ตัว เป็นต้น

 

  • วัยมัธยม (13 - 18 ปี) 

วัยนี้เป็นวัยที่ต้องการพื้นที่ของตัวเองมากยิ่งขึ้น ซึ่งเป็นเรื่องปกติตามช่วงวัย เราขอเจาะในเรื่องของทักษะทางวิชาการ เช่น คณิตศาสตร์และภาษาอังกฤษที่เริ่มมีบทบาทสำคัญสำหรับเด็ก ๆ 

ในปัจจุบันเด็ก ๆ เริ่มเรียนภาษาอังกฤษตั้งแต่วัยอนุบาลเลยก็ว่าได้ ซึ่งการจำ การวิเคราะห์ข้อมูลและการประมวลผลจึงเป็นเรื่องสำคัญมาก เพราะหากแต่ละช่วงวัยมีการฝึกฝนอย่างถูกต้องและอย่างสม่ำเสมอ จะส่งผลให้สมองส่วนการวิเคราะห์ข้อมูลและการประมวลผล (Prefrontal Cortex) ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ดังนั้นจะทำให้เด็ก ๆ มีทักษะในการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า รวมไปถึงการคิดวิเคราะห์ได้ดีมากขึ้น

 

อ่านมาถึงตรงนี้อาจจะมีข้อสงสัยในเรื่องของสมองด้านการจำ การวิเคราะห์และประมวลผล (Prefrontal Cortex) ที่เราได้กล่าวไปข้างต้น 

 

2. ทักษะสมองทั้ง 5 ด้านส่งผลต่อการจำ การวิเคราะห์และประมวลผลข้อมูล 

ทักษะสมองทั้ง 5 ด้าน มีดังนี้

 

  • ทักษะด้านสมาธิ การจดจ่อ ความจำ

ทักษะด้านนี้จึงเป็นทักษะที่อาจจะเรียกได้ว่าทักษะขั้นสูง คือ การมีสมาธิ จดจ่อกับงานหรือการเรียนที่เด็ก ๆ ทำอยู่ขณะนั้น โดยทักษะนี้ต้องอาศัยองค์รวมทั้ง 4 ด้าน เพื่อพัฒนาทักษะนี้ได้ดีมากยิ่งขึ้น 

 

  • ทักษะด้านการเคลื่อนไหวและประสาทสัมผัส 

ทักษะนี้จะเป็นทักษะแรก ๆ ที่พัฒนา เนื่องจากตั้งแต่แรกเกิดจนทารก เริ่มรับรู้ตัวตนของตัวเองผ่านร่างกาย ประสาทสัมผัสทุกส่วน และหากทักษะด้านนี้แข็งแรง เด็ก ๆ ก็จะมีความมั่นใจและควบคุมร่างกายของตัวเองได้ดีมากขึ้น 

 

  • ทักษะด้านการมอง ไหวพริบ เรื่องมิติสัมพันธ์ รูปทรงเลขาคณิต

จากช่วงพัฒนาการ ทักษะด้านการมองจะเริ่มพัฒนาตั้งแต่ทารกลืมตามองโลก แต่จะเป็นทักษะที่ต้องผ่านการฝึกฝน เช่น เด็กมองตามของเล่น มองตามจุดสีแดงใหญ่ ๆ และค่อย ๆ มองตามจุดเล็ก ๆ ซึ่งก็เป็นในส่วนของการวิเคราะห์วัตถุเล็ก - ใหญ่ผ่านการมองเช่นกัน

 

  • ทักษะด้านการฟังและภาษา การประมวลผลการจากฟัง การวิเคราะห์เสียง หรือการทำตามคำสั่ง การเรียงลำดับข้อมูล จากการฟัง

ทักษะด้านนี้จะเป็นทักษะที่ค่อย ๆ พัฒนา เริ่มต้นจากการฟังเสียงพ่อแม่เวลาพูดคุยกับลูก และค่อย ๆ เป็นการขยับปากพูดตามเป็นคำ ๆ ซึ่งเมื่อโตเต็มวัย ผู้ปกครองหลายคนก็อาจจะเจอกับเด็กน้อยพูดเยอะ ตั้งคำถามกับทุกอย่าง ซึ่งเป็นไปตามพัฒนาการและเด็ก ๆ จะเริ่มวิเคราะห์เสียงได้มากขึ้น

 

  • ทักษะด้านอารมณ์ และการเข้าสังคม

เมื่อเด็ก ๆ สามารถวิเคราะห์ข้อมูลจากการมอง การฟัง การเคลื่อนไหวได้มากยิ่งขึ้น จะส่งผลให้ทักษะการวิเคราะห์และประมวลผลข้อมูลค่อย ๆ พัฒนามากขึ้น รวมไปถึงการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าและการยับยั้งชั่งใจของตัวเองด้วยเช่นกัน
 

ทั้งสองปัจจัยข้างต้นเป็นปัจจัยหลัก ๆ ที่ส่งผลในเรื่องความจำ การวิเคราะห์และการประมวลผลข้อมูลของเด็ก ๆ ซึ่งเป็นทักษะที่สามารถพัฒนาได้ ยิ่งพัฒนาในช่วง 3 - 6 ปี จะเป็นเรื่องง่ายต่อการต่อยอดทักษะต่าง ๆ ที่ซับซ้อนมากขึ้น เหมือนการสร้างบ้านที่เราจะต้องสร้างฐานให้แข็งแรงเพื่อรองรับน้ำหนักของตัวบ้าน เพื่อความปลอดภัยและการใช้งานได้นานขึ้นค่ะ เด็ก ๆ ก็เช่นกัน หากได้รับการฝึกฝนอย่างเหมาะสมและเสริมพื้นฐานที่แข็งแรง เตรียมพร้อมสู่โลกที่กว้าง

 

"จำเก่ง ความจำ พัฒนาสมาธิ"

 

3. ลูกรัก จำเก่ง วิเคราะห์ไว ด้วยเทคนิคนี้! 

BrainFit ของเรามีโปรแกรมเพื่อฝึกทักษะพื้นฐานและต่อยอดไปยังทักษะขั้นสูงซึ่งก็คือการจำ การวิเคราะห์และประมวลผลข้อมูลเพื่อใช้ใน

ชีวิตประจำวันของลูกรัก

โดยมีโปรแกรมการฝึก ดังนี้

 

1. Whole Brain Training

โปรแกรมฝึกทักษะทางสมองทั้ง 5 ด้านผ่านการทำกิจกรรมต่าง ๆ ที่ได้รับการวิจัยมาจากนักประสาทวิทยา โดยจะฝึกน้อง ๆ ตั้งแต่ 3 - 18 ปี โดยโปรแกรมนี้จะเป็นโปรแกรมการฝึกที่สถาบันโดยเฉพาะ ซึ่งกิจกรรมต่าง ๆ จะเน้นฝึกทักษะทั้ง 5 ด้านไปพร้อมกัน ทั้งนี้ทั้งนั้นการฝึกฝนจะเป็นการเล่นผ่านกิจกรรมที่มีความสนุกและหลากหลาย โดยเด็ก ๆ จะได้เพิ่มพื้นฐานทักษะที่จำเป็นในการใช้ชีวิต การเรียนรู้ การ วิเคราะห์ ประมวลผลและตีความข้อมูล รวมไปถึงเสริมสร้างวินัยและความคิดสร้างสรรค์ของเด็ก ๆ ได้อีกด้วย

 

2. Fast ForWord®

โปรแกรมฝึกภาษาอังกฤษสารพัดประโยชน์ เพราะไม่ได้เป็นเพียงแค่ฝึกภาษาเท่านั้น ยังช่วยในเรื่องความเร็วในการวิเคราะห์และประมวลผลข้อมูล

ฝึกทักษะด้านความไวในการวิเคราะห์และประมวลผลข้อมูลผ่านการฟัง (Processing Speed) และยังเพิ่มทักษะทางด้านภาษาอังกฤษผ่านเกมอย่างสนุกสนาน

  • ประโยชน์ที่ได้รับจากการฝึก ?
    • ฟังภาษาอังกฤษได้แม่นยำ ชัดเจนมากขึ้น
    • ได้เรียนรู้คำศัพท์ใหม่ ๆ
    • ฝึกฝนพื้นฐานไวยากรณ์
    • การอ่านและการทำความเข้าใจ
    • การอ่านออกเสียงถูกต้องตามหลัก Pronunciation
    • ความคล่องแคล่วในการอ่านหนังสือ
    • การพูดที่ชัดเจน มั่นใจ
    • มีสมาธิที่ดีขึ้น
    • ความจำดีขึ้น
    • คิด วิเคราะห์เร็วและดีขึ้น
    • เพิ่มทักษะการเรียงลำดับความคิดหรือเหตุการณ์ซึ่งจำเป็นต่อการเขียนงานเช่น เรียงความหรือบทความ

ศึกษาเพิ่มเติม :  https://www.brainfit.co.th/th/ฝึกภาษาอังกฤษ-ฝึกสมอง


ดังนั้น ทักษะการจำ การวิเคราะห์และประมวลผลจึงเป็นทักษะสำคัญสำหรับทุกคน ไม่ว่าจะเด็กหรือผู้ใหญ่ และเป็นทักษะที่หากได้รับการฝึกฝนอย่างถูกวิธีจะเป็นประโยชน์อย่างมากทั้งในเรื่องการเรียน การงานและการใช้ชีวิตประจำวันในอนาคต

 

 

"ฝึกสมาธิ คอร์สเรียน"

หากสนใจติดต่อเราได้เลย

 

เพิ่มเพื่อน

LINE: @brainfit_th 

จันทร์ อังคาร พุธ เสาร์ และ อาทิตย์  

02-656-9938 / 02-656-9939 02-656-9915

วันพฤหัสบดี-วันศุกร์  091-774-3769

Contact Us

หากคุณสนใจคอร์สหรือต้องการข้อมูลเพิ่มเติมสามารถติดต่อเราได้เลย

BrainFit Studio Thailand ชั้น 2, อาคารเพลินจิตเซ็นเตอร์,
สุขุมวิทซอย 2, กทม. 10110BTS สถานีเพลินจิต ทางออก 4