ลูกรัก ขี้ลืม ! 3 เกมนี้ช่วยได้

 

ลูกรัก ขี้ลืม ! 3 เกมนี้ช่วยได้

 

ไม่ว่าถามอะไรไป ลูกก็มักจะตอบว่า

 

“หนูลืมค่ะ”

“หนูจำไม่ได้”

 

อาการ ขี้ลืม ในเด็กเล็ก อาจทำให้คุณพ่อคุณแม่เป็นกังวล ว่าทำไมลูกเราถึงความจำสั้นจังเลย บอกไปเมื่อกี้ แป๊บเดียวลืมซะแล้ว

แบบนี้ถ้าไปโรงเรียน จะสามารถจำเรื่องที่เรียนได้ไหมนะ ?

 

สำหรับเด็กในวัย 3-6 ขวบนั้น อาการ ขี้ลืม สามารถเกิดขึ้นได้ เนื่องจากสมองส่วนใหญ่ยังอยู่ในขั้นตอนพัฒนา ทั้งยังไม่สามารถทำตามคำสั่งที่ซับซ้อน หรือทำหลายอย่างพร้อมกัน เพราะต้องใช้ทักษะ Sequencing หรือการเรียงลำดับว่าสิ่งใดทำก่อน สิ่งใดทำหลังได้ เด็กในวัยนี้จะยังคิดอะไรไม่ซับซ้อน คิดแต่เรื่องที่อยู่รอบตัวของเขา ทำให้การจำเรื่องอื่น ๆ นอกเหนือจากนั้นเป็นเรื่องยาก รวมทั้งทักษะความจำนั้น ต้องใช้การทำงานของสมองหลายส่วนพร้อมกัน หากส่วนใดยังไม่แข็งแรงเพียงพอ อาจทำข้อมูลที่รับเข้ามาไม่แม่นยำ ยากที่จะจำ


    
แต่ทั้งนี้สมองที่มีหน้าที่ในการจดจำจะสามารถพัฒนาขึ้นตามวัย รวมถึงตามกิจกรรม และสิ่งแวดล้อมที่ช่วยกระตุ้นทักษะนี้ให้กับเด็ก ๆ จนเด็ก ๆ มีความจำที่ดีขึ้น รวมถึงจำเรื่องราวที่มีความซับซ้อนได้มากขึ้น

 

 

"ขี้ลืม"

 

 

แต่หากเข้าสู่วัยประถมแล้ว เด็ก ๆ ก็ยังขี้ลืมอยู่เสมอ เวลาสั่งให้ทำอะไร ก็ยังจำได้แค่คำสั่งเดียว อาจเป็นไปได้จากหลายสาเหตุ

 

 แล้วมีสาเหตุไหนบ้างนะ?

 

1. สมาธิ 


การที่เด็กขาดสมาธิ อาจส่งผลกับการจดจำได้ เนื่องจากเด็กไม่สามารถจดจ่ออยู่กับสิ่งที่ต้องจำได้ ทำให้ข้อมูลที่รับมาไม่ครบถ้วน หรือไม่ปะติดปะต่อ

 

2. การฟัง 


หากเด็กมีแม่พิมพ์เสียงที่ไม่ชัดเจน อาจทำให้การฟังผิดเพี้ยนไป ไม่สามารถเชื่อมโยงเสียงกับความหมายจนเกิดเป็นความเข้าใจได้ เช่น ฟังคุณครูพูดคำสั่งว่าให้พิมพ์ เป็น ให้ยิ้ม หรือฟัง dad เป็น bad จะเห็นได้ว่าแต่ละเสียงนั้นมีความใกล้เคียงกันมาก แต่ความหมายไม่ใกล้เคียงกันเลย ซึ่งอาจทำให้สับสนในการเข้าใจคำสั่งได้ เมื่อไม่เข้าใจความหมาย ก็จะทำให้ยากที่จะจำ และทำตาม

 

3. การมอง  


การมองเป็นหนึ่งในทักษะที่ช่วยในเรื่องของความจำ แต่ถ้าหากกล้ามเนื้อตาไม่แข็งแรง หรือขาดทักษะในการรับรู้พื้นที่ ทักษะทางด้านมิติสัมพันธ์ ทักษะการรับรู้ทางสายตาเองก็ดี สมองต้องแบ่งพลังงานไปใช้ในการมอง จนไม่เหลือพลังสำหรับการจดจำ

 

4. การพักผ่อน


ในขณะที่เรานอนหลับ สมองจะซึบซับเรื่องราว เหตุการณ์ต่าง ๆ ที่เด็กได้พบเจอ และนำข้อมูลมาประมวลผลซ้ำ ๆ กลายเป็นความจำระยะสั้น และพัฒนาไปเป็นความจำระยะยาวต่อไป  

 

5. ไม่ได้ฝึกกระตุ้นสมองอย่างเป็นประจำ  


ความจำนั้นต้องใช้สมองหลายส่วนทำงานพร้อมกัน สมองของเด็ก พัฒนาตั้งแต่อยู่ในท้องแม่ และพัฒนาอย่างต่อเนื่องในวัยเด็ก ถือเป็นเวลาทองในการฝึกสมองให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น แต่หากไม่ได้สอนให้เด็กฝึกคิด ฝึกใช้งานสมองเป็นประจำ สมองก็อาจจะพัฒนาได้ช้า และยังไม่สมบูรณ์มากนัก รวมถึงสมองนั้นสามารถเสื่อมถอยได้ หากไม่ได้ฝึกกิจกรรมที่กระตุ้นการใช้งานเป็นเวลานาน

 

6. ความเครียดขัดขวางการเรียนรู้ 


ความเครียดส่งผลโดยตรงกับความจำ ในขณะที่เด็ก ๆ เครียดจะทำให้ฮอร์โมนแห่งความเครียดเพิ่มขึ้น ส่งผลให้ระบบประสาทและสมองส่วนความจำทำงานลดลง ควรหลีกเลี่ยงสถานการณ์ที่ก่อให้เกิดความเครียด เช่น ความหิว ความง่วง

 

"ขี้ลืม"

 

 

ซึ่งคุณพ่อคุณแม่สามารถช่วยให้ลูก ๆ มีความจำที่ดีขึ้นได้ โดย..

  • ให้เด็ก ๆ นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ
  • สร้างกิจวัตรประจำวัน
  • ให้ทำกิจกรรมทีละอย่าง
  • สอนให้เด็ก ๆ ทำ Checklist
  • ฝึกกระตุ้นสมองเป็นประจำ

 

 

วันนี้ BrainFit ก็มี 3 เกม ที่ช่วยฝึกกระตุ้นสมองในส่วนความจำมาแนะนำ โดยสามารถเล่นได้เองที่บ้านมาฝากกัน
    
ถ้าพร้อมแล้ว ไปดูกันเลยค่ะ ว่ามีเกมอะไรบ้าง

 

 

"ขี้ลืม"

 

1. เกมบอกคำ ต่อคำ


เป็นเกมสมัยเด็ก ที่หลาย ๆ คนอาจจะเคยเล่นกันมาบ้างแล้ว เป็นเกมที่ไม่ต้องใช้อุปกรณ์ และวิธีการเล่นก็แสนง่าย โดยนั่งล้อมเป็นวงกลมกับลูก และเลือกหัวข้อขึ้นมา เช่น ผลไม้ หรือสัตว์ โดยให้คนที่ 1 พูดคำศัพท์ คนที่ 2 ให้ทวนคำศัพท์ของคนที่ 1  แล้วค่อยพูดคำของตัวเอง คนที่ 3 ให้ทวนคำศัพท์ของคนที่ 1 และคนที่ 2 แล้วค่อยพูดคำศัพท์ของตัวเอง เป็นเกมที่สามารถเล่นด้วยกันเป็นครอบครัว ส่งเสริมการใช้เวลากับลูก ๆ อย่างมีประสิทธิภาพ

 

เช่น คนที่ 1 “แอปเปิ้ล”
คนที่ 2 “แอปเปิ้ล มังคุด”
คนที่ 3 “แอปเปิ้ล มังคุด ทุเรียน”
คนที่ 1 “แอปเปิ้ล มังคุด ทุเรียน ลองกอง”

 

 

"ขี้ลืม"

 

2. เกมจับคู่รูปภาพ


โดยทำการ์ดเป็นรูปต่าง ๆ โดยแต่รูปจะมีคู่ของตัวเอง วิธีการเล่น ให้เด็ก ๆ พลิกทีละคู่ หากการ์ดทั้งสองใบไม่เหมือนกัน ให้คว่ำหน้าลงเหมือนเดิม ให้ทำซ้ำไปเรื่อย ๆ จนกว่าจะจับคู่รูปภาพได้ทั้งหมด ช่วยฝึกในเรื่องความจำจากการมองได้อย่างดี

 

 

"ขี้ลืม"


3. Fast ForWord


Fast ForWord เป็นโปรแกรมที่ออกแบบโดยนักประสาทวิทยา ไม่เพียงช่วยพัฒนาทักษะทางด้านภาษาอังกฤษ แต่ยังช่วยพัฒนาทักษะพื้นฐานสมองด้านอื่น ๆ เช่น ความรวดเร็วในการประมวลผล สมาธิ การรอคอย รวมถึงความจำจากการมอง และฟังด้วย ซึ่งทักษะเหล่านี้จะถูกฝึกผ่านเกมที่มีความสนุกสนาน ส่งผลให้เด็ก ๆ เปิดใจที่จะเรียนรู้ เด็ก ๆ จะได้ฝึกในหลาย ๆ ทักษะที่อาจเป็นสาเหตุให้ขี้ลืม โดยจะปูพื้นฐานตั้งแต่การฟัง ให้แม่นยำ มีแม่พิมพ์เสียงที่ชัดเจน เรียนรู้ตั้งแต่หน่วยเสียง หน่วยคำ เมื่อการฟังแม่นยำ ส่งผลให้การเชื่อมโยงกับความหมายทำได้ดีขึ้น และจดจำได้ดีขึ้น

โดยเกม Fast ForWord มีหลายระดับ เหมาะสำหรับน้อง ๆ ตั้งแต่ระดับอนุบาลไปจนถึงระดับมัธยมศึกษา สามารถฝึกด้วยตนเองเองได้ที่บ้าน เพียงวันละ 30 นาที 5 วัน/สัปดาห์ เด็ก ๆ จะได้ฝึกทักษะภาษาและยังได้รับการกระตุ้นสมองทุกวันอีกด้วย และเมื่อสมองได้รับการฝึกฝนอย่างสม่ำเสมอ จะทำให้ความจำดีขึ้นได้อย่างแน่นอนค่ะ

 

 

หากสนใจสามารถทดลองเรียนฟรีได้ ที่นี่     

 

 

จันทร์ อังคาร พุธ เสาร์ และ อาทิตย์  

02-656-9938 / 02-656-9939 02-656-9915

วันพฤหัสบดี-วันศุกร์  091-774-3769

 


เพิ่มเพื่อน

LINE: @brainfit_th 

                       

Contact Us

หากคุณสนใจคอร์สหรือต้องการข้อมูลเพิ่มเติมสามารถติดต่อเราได้เลย

BrainFit Studio Thailand ชั้น 2, อาคารเพลินจิตเซ็นเตอร์,
สุขุมวิทซอย 2, กทม. 10110BTS สถานีเพลินจิต ทางออก 4