มาทำความเข้าใจ พัฒนาการด้านอารมณ์ ของเด็ก ๆ กันเถอะ!
คุณผู้ปกครองทราบหรือไม่ว่า เด็ก ๆ ในแต่ละช่วงวัยนั้น มีอารมณ์ และการแสดงออกทางอารมณ์ที่แตกต่างกัน ซึ่งการที่เรารู้เท่าทันอารมณ์ของเด็กๆ นั้นจะทำให้คุณผู้ปกครองทั้งหลายสามารถเข้าใจ และเลี้ยงดูลูกรักของท่าน ให้เติบโตขึ้นมาโดยมีสภาพจิตใจที่แข็งแรง แถมเรายังสามารถเตรียมพร้อมรับมือกับอารมณ์ต่าง ๆ ของลูกรักได้อีกด้วย
เห็นไหมค่ะว่าการเรียนรู้เรื่องอารมณ์ของเด็ก ๆ มีประโยชน์มากแค่ไหน หากทราบประโยชน์ของการเรียนรู้อารมณ์ว่ามีมากมายขนาดนี้แล้วหล่ะก็ อย่ารอช้า ไปดูกันเลยดีกว่าค่ะว่าพัฒนาการด้านอารมณ์ของเด็ก ๆ ในวัยต่าง ๆ เป็นอย่างไรบ้าง...
พัฒนาการด้านอารมณ์ ของเด็ก
พัฒนาการด้านอารมณ์ของเด็กแรกเกิด – 1 ปี
ช่วงแรกเกิด – 6 เดือนสมองที่ทำงานเกี่ยวกับเรื่องของ อารมณ์ของเด็ก ๆ จะยังไม่ทำงาน ทำให้เวลาที่เด็กแสดงออกทางสีหน้าใด ๆ ในขณะนั้น เช่น หากเราเห็นว่าเด็กกำลังยิ้มอยู่นั้น ไม่ได้หมายความว่าพวกเขารู้สึกว่าตัวเองมีความสุขอยู่ในขณะนั้นเสมอไป
คุณพ่อคุณแม่สามารถรักษาสมดุลของอารมณ์ของเด็ก ๆ วัยแรกเกิด – 6 เดือนได้ โดยการเมื่อเด็กร้องไห้ให้รีบเข้าไปหาพวกเขาให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้
หลัง 6 เดือนไปจนถึง 1 ปีแรก สมองที่ทำงานเกี่ยวกับเรื่องของอารมณ์จะเริ่มพัฒนาขึ้นมา ทำให้เด็ก ๆ สามารถแสดงอารมณ์โต้ตอบกับเราได้มากขึ้น เช่น ยิ้มตอบเมื่อมีความสุข หรือร้องไห้เมื่อรู้สึกไม่พอใจออกมาได้ตามความรู้สึก แต่อารมณ์ของเด็กวัยนี้จะแปรปรวนมากเนื่องจากสมองที่ทำงานเกี่ยวกับเรื่องของอารมณ์ยังพัฒนาได้ไม่สมบูรณ์
พัฒนาการด้านอารมณ์ของเด็กวัย 1 ปี
เริ่มสร้างปฏิสัมพันธ์กับคนรอบข้าง มีการใช้นิ้วชี้ไปที่สิ่งของเพื่อให้คนอื่นหยิบมาให้ เข้าใจตัวเองมากขึ้น หากชอบสิ่งใดมีการพยักหน้าบอก ถ้าไม่ชอบก็มีการส่ายหน้าปฎิเสธ ยังมีความกล้วสิ่งต่าง ๆ อยู่ เช่น ความมืด กลัวสัตว์ กลัวเสียงต่าง ๆ
พัฒนาการด้านอารมณ์ของเด็กวัย 2 ปี
พัฒนาการด้านอารมณ์ของเด็กวัยนี้จะดีมากยิ่งขึ้น รู้จักอารมณ์ตัวเองดีขึ้น จะรู้สึกภูมิใจเป็นอย่างมากเมื่อได้รับการชมเชย หรือการยอมรับจากผู้ใหญ่ แต่ยังมีอารมณ์ขึ้น ๆ ลง ๆ อยู่ มักจะเรียกร้องความสนใจด้วยวิธีต่าง ๆ เช่น ทำลายข้าวของเพื่อให้ได้รับความสนใจ เป็นวัยที่ไม่ค่อยมีเหตุผล
แต่เด็กวัยนี้เป็นวัยที่กำลังต่อสู้กับอารมณ์ และพฤติกรรมของตัวเองอยู่ พวกเข้ากำลังเรียนรู้อารมณ์ การกระทำ และผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น คุณพ่อคุณแม่ควรดูแลอย่างใกล้ชิด ควรบอกสิ่งที่ควรทำ และอธิบายว่าสิ่งไหนไม่ควรทำ เพราะอะไร
พัฒนาการด้านอารมณ์ของเด็กวัย 3 ปี
เป็นวัยที่เอาตัวเองเป็นศูนย์กลางของทุกสิ่งทุกอย่าง ทุกอย่างต้องเป็นไปตามที่ตัวเองต้องการ มีการแสดงออกทางอารมณ์และความรู้สึกมากขึ้น เช่น ถ้าไม่พอใจจะกรีดร้อง หรือกระทืบเท้า และหากถูกขัดใจ หรือถูกบังคับให้ทำสิ่งใดจะพูดคำว่า “ไม่” ออกมาให้ได้ยิน ซึ่งในวัยนี้เด็กจะพูดคำว่า “ไม่” ออกมาให้เราได้ยินอยู่บ่อยครั้ง
วัยนี้ยังไม่สามารถเข้าใจเหตุผลได้มากนัก ผู้ปกครองควรดูแลอย่างใกล้ชิด และคอยสอนในสิ่งที่ถูกต้องให้แก่เด็กอย่างใจเย็น ไม่บังคับเด็ก เพราะวัยนี้ยิ่งบังคับเด็กจะยิ่งต่อต้านเรามากขึ้น คอยพูดชมให้กำลังใจเมื่อพวกเขาทำสิ่งที่ถูกต้อง พาเด็ก ๆ ไปเข้าร่วมกิจกรรมกลุ่มให้เค้ารู้จักการเข้าสังคม และการแสดงออกทางอารมณ์ที่ถูกต้อง
พัฒนาการด้านอารมณ์ของเด็กวัย 4 ปี
เป็นวัยที่ชอบท้าทายผู้ใหญ่ ต้องการให้คนสนใจในตัวเอง และในวัยนี้เด็ก ๆ เริ่มแสดงอารมณ์ได้อย่างเหมาะสมกับสถานการณ์แล้ว
พัฒนาการด้านอารมณ์ของเด็กวัย 5-6 ปี
ในวัยนี้เด็กจะลดการยึดตัวเองเป็นศูนย์กลางลง แสดงออกทางอารมณ์ได้เหมาะสมกับสถานการณ์มากยิ่งขึ้น มีความชื่นชมในความสามารถของตนเองและผู้อื่น
ช่วงแรกเกิด – 6 ปีแรกของเด็ก จะเป็นช่วงที่สำคัญมากในการวางรากฐานพฤติกรรม และบุคลิกภาพ ดังนั้นผู้ปกครองควรดูแลเด็ก ๆ อย่างใกล้ชิด ให้ความรักและความอบอุ่นที่เพียงพอแก่เด็ก ๆ เป็นแบบอย่างที่ดีให้แก่พวกเขา เพราะช่วงวัยนี้เด็ก ๆ จะเรียนรู้สิ่งต่าง ๆ ผ่านตัวแบบ ซึ่งก็คือคุณผู้ปกครองที่ใกล้ชิดกับพวกเขานั่นเอง หากอยากให้เด็กเป็นแบบไหนจงทำแบบนั้นให้เขาดู ไม่ใช่แต่เพียงการพูดออกไปอย่าง แล้วทำอีกอย่าง สิ่งนี้ย่อมไม่เกิดผลแน่นอน และเมื่อเด็ก ๆ ทำสิ่งใดได้ประสบผลสำเร็จ ก็อย่าลืมชื่นชมพวกเขาด้วย เพื่อสร้างความภาคภูมิใจในตนเองให้เด็ก ๆ
พัฒนาการด้านอารมณ์ของเด็กปฐม ( 6 – 12 ปี )
ในวัยนี้เด็ก ๆ จะเริ่มมีอารมณ์ที่หลากหลายมากขึ้น มีอารมณ์เหมือนผู้ใหญ่ เช่น โกรธ อิจฉา กังวล ก้าวร้าว พอใจ เป็นต้น เป็นช่วงชีวิตที่มีความสุขมากที่สุด มีความกลัวที่หลากหลายมากขึ้น เช่น กลัวการถูกเพื่อนล้อ และมีความวิตกกังวลเพิ่มเข้ามาในเรื่องของการเรียน กังวลว่าจะสอบผ่านไหม เป็นต้น และในวัยนี้มีการแสดงออกของอารมณ์โกรธที่แตกต่างกันในเด็กผู้ชาย และเด็กผู้หญิง เช่น ต่อสู้กัน ว่ากล่าวกันโดยใช้คำพูดที่ทำให้ผู้อื่นเสียใจ เป็นต้น
ทั้งนี้ในวัยนี้คุณพ่อคุณแม่ควรสอนเด็ก ๆ เกี่ยวกับการแสดงออกทางอารมณ์ที่สังคมยอมรับ และควรบอกพวกเขาว่าการแสดงออกแบบไหนที่ไม่เป็นที่ยอมรับของสังคม และชมเชยเมื่อเด็ก ๆ สามารถระงับอารมณ์ และพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมได้ และวัยนี้เป็นวัยที่เด็ก ๆ เข้ากลุ่มกับเพื่อน ๆ แล้ว การที่เด็กได้อยู่รวมกลุ่มกับเพื่อนที่ดีก็จะทำให้เด็กได้เรียนรู้การแสดงออกทางอารมณ์ที่เหมาะสมตามไปด้วยนั่นเองค่ะ
พัฒนาการด้านอารมณ์ของเด็กวัยรุ่น ( 12 – 18 ปี )
วัยนี้เป็นวัยที่มีอามณ์รุนแรง แปรปรวน และสวิงขึ้นลงอย่างฉับพลันตามสถานการณ์ที่เจอ เด็กวัยนี้จึงเป็นวัยที่จะรับมือได้ค่อนข้างยากหน่อยสำหรับผู้ปกครองหลายท่าน และเป็นช่วงวัยที่มีอารมณ์ความรู้สึกที่อ่อนไหวง่าย หากถูกตำหนิ หรือต่อว่าเพียงเล็กน้อยจะรู้สึกเสียใจและน้อยใจมาก ในบางครั้งอาจถึงขั้นแสดงอารมณ์ และพฤติกรรมต่อต้านที่รุนแรงที่โต้ตอบกลับมา
การรับมือกับอารมณ์ของเด็กวัยนี้คือให้คุณผู้ปกครองพยายามทำความเข้าใจลูกให้มากขึ้น พูดคุย หรือให้คำปรึกษาให้เหมือนกับว่าตัวเองเป็นเพื่อนของพวกเขา และหากลูกทำสิ่งที่ไม่ถูกต้อง ก็ให้ใช้การพูดอย่างมีเหตุผลคุยกับพวกเขา ด้วยน้ำเสียงที่แสดงถึงความห่วงใย ไม่แสดงสีหน้า และใช้วาจาที่ไม่ดีพูดคุยกับเด็ก เพราะจะทำให้เด็กเกิดการต่อต้าน และไม่ฟังถึงเหตุผลของเรา
และนี้ก็คือพัฒนาการทางด้านอารมณ์ของเด็กๆ ที่ถ้าหากว่าคุณพ่อคุณแม่รู้เท่าทันอารมณ์ของเด็กแต่ละช่วงวัยแล้ว ก็จะทำให้ทุกท่านสามารถรับมือ และเลี้ยงดูพวกเขาให้เติบโตขึ้นมามีอารมณ์ที่มั่นคง และมีสุขภาพจิตที่แข็งแรงได้อย่างแน่นอนค่ะ
ที่สถาบัน BrainFit เรามีหลักสูตรพัฒนาสมองรอบด้าน ที่ช่วยพัฒนาทักษะสมองด้านการมอง การฟัง การเคลื่อนไหว สมาธิ รวมถึงเรื่องอารมณ์ ผ่านการคิดค้นโดยนักจิตวิทยา และนักประสาทวิทยาชั้นนำที่จะช่วยเตรียมสมองของเด็ก ๆ ให้พร้อมเรียนรู้สิ่งต่างๆ ต่อไปในอนาคต ไม่ว่าจะเป็นด้านดนตรี กีฬา หรือแม้กระทั่งวิชาการ
BrainFit พัฒนาศักยภาพการเรียนรู้ให้เด็ก ๆ 3-18 ปี
------------------------------
LINE: @brainfit_th
BrainFit รับสมัครน้องๆ อายุตั้งแต่ 3-18 ปี
รับคำปรึกษาจากเรา ได้แล้ววันนี้ ฟรี!
ที่ 02-656-9938 / 02-656-9915 / 091-774-3769