เด็ก ๆ ก็มี ความเครียด เหมือนกันนะ!
คุณพ่อคุณแม่ทั้งหลายอาจจะคิดว่าความเครียดเป็นเรื่องไกลตัวสำหรับเด็กๆ
“อายุแค่นี้จะไปมีความเครียดอะไร ยังไม่โตยังไม่มีอะไรต้องรับผิดชอบเลย”
แต่คุณพ่อคุณแม่รู้หรือไม่ว่า ความคิดนี้อาจจะไม่ถูกต้องเสมอไป… เพราะเด็ก ๆ ก็มีความเครียดเหมือนกัน แต่ความเครียดในเด็กกับความเครียดในผู้ใหญ่จะแตกต่างกัน
โดยที่ในปัจจุบันนั้นสถิติการเกิดความเครียดในเด็กคิดเป็นร้อยละ 30 คือในเด็กร้อยคนจะเป็นเด็กที่มีความเครียดถึง 30 คนเลยทีเดียว และใน 30 คนนั้นจะมีเด็กถึง 10 คนที่มีความเครียดอยู่ในระดับที่รุนแรง และความเครียดที่มากเกินไปอาจส่งผลที่ร้ายแรงมากกว่าที่คุณคิด เพราะสิ่งนี้จะเป็นประตูที่นำพาเด็กเข้าสู่วังวนของการเป็นโรคซึมเศร้าได้
แล้วความเครียดในเด็กเกิดขึ้นได้จากสาเหตุใดบ้างนะ?
1. การเรียน การที่เด็กเรียนไม่เข้าใจ หรือต้องแข่งขันกันเรียนมากขึ้นในสมัยนี้ก็เป็นหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้เด็กเกิดการกดดัน และเครียดขึ้นมาได้
2. การต้องปรับตัวกับความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น เช่น ย้ายบ้าน ย้ายโรงเรียน หรือเพิ่งเข้าโรงเรียน
3. การที่พ่อแม่ทะเลาะเบาะแว้ง หรือเลิกรากัน
4. จากความคาดหวังที่มากเกินไปของผู้ปกครอง (เป็นความคาดหวังที่ไม่อยู่บนหลักของความเป็นจริง หรือสิ่งที่จะสามารถเกิดขึ้นได้)
5.การไม่ได้รับการยอมรับในสังคม เช่นไม่ได้รับการยอมรับจากเพื่อน หรือถูกเพื่อนแกล้งเป็นต้น
6.จากการเลี้ยงดู เช่น ถูกผู้ปกครองตำหนิ หรือซึมซับความเครียดมาจากผู้ปกครองที่มีความเครียด
7.ปัจจัยอื่นๆ
คำถามต่อมาก็คือ…
หากเด็กเกิดความเครียดแล้วจะส่งผลกระทบอะไรต่อตัวเด็กบ้าง?
คำตอบก็คือ หากเด็กมีความเครียดเด็กอาจแสดงออกโดยการมีพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม หรือแสดงออกเป็นการเจ็บป่วยทางกายได้
พฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมที่เกิดจากความเครียดในเด็ก
1.เด็กจะดื้อ มีการต่อต้าน และมีความก้าวร้าวกับบุคคลรอบข้างมากขึ้น
2.ไม่ค่อยมีสมาธิจดจ่อเวลาที่จะต้องทำสิ่งใด
3.มีการร้องไห้และกรีดร้องบ่อยครั้ง
4.ความเครียดในเด็กส่งผลให้มีพัฒนาการที่ถดถอยลง
5.นำไปสู่การเกิดอาการซึมเศร้า
อาการเจ็บป่วยทางกายที่มีสาเหตุมาจากความเครียดในเด็ก
1.ปวดศีรษะ หรือปวดท้อง
2.มีปัญหาเกี่ยวกับการนอน เช่น นอนไม่ค่อยหลับ หรือตื่นกลางดึกบ่อยครั้ง
3.น้ำหนักลดลงไปจนต่ำกว่าเกณฑ์
4.ระบบย่อยอาหารทำงานไม่ปกติ
5.อาเจียน
แล้วเราจะทำอย่างไรให้ความเครียดในเด็กลดลงได้บ้าง?
พ่อแม่ควรสังเกตพฤติกรรมของเด็ก ๆ อยู่เสมอ เพื่อที่จะได้รู้ว่าลูกของเรามีพฤติกรรมที่เหมือนเดิมหรือเปลี่ยนแปลงไปอย่างไร
หากมีพฤติกรรมที่เปลี่ยนแปลงไปไม่เหมือนเดิม พฤติกรรมเหล่านั้นเข้าข่ายว่าเด็ก ๆอาจจะมีความเครียดหรือเปล่า และหากพฤติกรรมของเด็กเข้าข่ายมีความเครียด คุณพ่อคุณแม่ก็สามารถช่วยเหลือเด็ก ๆ ได้โดยการ เข้าไปถามไถ่แสดงถึงความห่วงใยและใส่ใจ หากเด็ก ๆ มีปัญหาอะไรก็ช่วยกันหาทางออกร่วมกันกับเด็ก เพียงเท่านี้เด็ก ๆ ก็จะรับรู้ได้ถึงความห่วงใยของคุณพ่อคุณแม่ สิ่งนี้จะทำให้ความเครียดของเด็กลดลงเพราะพวกเขารู้ว่ามีคนคอยห่วงใย เข้าใจ และพร้อมอยู่เคียงข้างเสมอ
และหากรู้ว่าความเครียดในเด็กอาจเกิดจากการถูกว่ากล่าว หรือถูกตำหนิจากคุณพ่อคุณแม่เมื่อทำสิ่งใดผิดพลาดไป ก็อยากจะแนะนำให้คุณพ่อคุณแม่ลดการว่ากล่าว และตำหนิเด็กลง แล้วเปลี่ยนมาพูดคุยกันด้วยเหตุผลมากขึ้น อะไรที่ทำผิดก็สอนเด็กให้รู้เป็นบทเรียน และอาจจะแนะนำแนวทางการแก้ปัญหา หรือการแสดงออกที่เหมาะสมที่เด็กควรทำให้กับเด็ก ๆ แทน เพื่อลดความเครียด และพฤติกรรมต่อต้านที่เด็กอาจแสดงออกมาเพราะคิดว่าคุณพ่อคุณแม่ไม่รักลงไปได้ เป็นต้น
เห็นไหมหล่ะคะ คุณผู้ปกครองทั้งหลาย ว่าเด็กๆ ทั้งหลายก็มีความเครียดได้เหมือนกันนะ และความเครียดในเด็กอาจนำไปสู่ผลลัพธ์ที่เราผู้เป็นพ่อแม่ หรือผู้ปกครองไม่พึงปรารถนา ไม่ว่าจะในระดับที่ไม่รุนแรงมากนัก จนไปถึงระดับที่รุนแรง
ดังนั้น ในวันนี้ก็อยากจะขอให้คุณพ่อคุณแม่ หรือคุณผู้ปกครองทั้งหลายหันมาสนใจและใส่ใจพฤติกรรมของเด็ก ๆ ให้มากขึ้น เพื่อลดโอกาสการเกิดความเครียดในเด็กกันนะคะ เพื่อสุขภาพกาย และสุขภาพจิตที่ดีของบุตรหลานของท่าน
“เพราะการมีสุขภาพกาย และสุขภาพจิตที่ดี เป็นพื้นฐานของการประสบความสำเร็จในชีวิตของเด็ก ๆ ในภายภาคหน้า”
BrainFit เปิดรับสมัครน้องๆ อายุตั้งแต่ 7-18 ปี ที่มีความสนใจ พัฒนาทักษะสมองพื้นฐานที่จำเป็นต่อการเรียนรู้ทั้ง 5 ด้าน ไม่ว่าจะเป็น ทักษะด้านการเคลื่อนไหว การมอง การฟัง สมาธิ รวมถึงเรื่องของอารมณ์ ให้มีความแข็งแรง เพื่อให้พร้อมในเรียนรู้ และรับมือกับสิ่งต่าง ๆ ที่เข้ามาในอนาคตข้างหน้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ!!!
-----------------------------------------
ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับคอร์สพัฒนาสมาธิ คลิก!
BrainFit Scholar สำหรับเด็ก 7-18 ปี
-----------------------------------------
BrainFit รับสมัครน้องๆ อายุตั้งแต่ 3-18 ปี
รับคำปรึกษาจากเรา ได้แล้ววันนี้ ฟรี!!
ที่ 02-656-9938 / 02-656-9915 / 091-774-3769
LINE: @brainfit_th