จะเกิดอะไรขึ้น?! เมื่อเราเลี้ยงลูกแบบปกป้องมากเกินไป

 

จะเกิดอะไรขึ้น?! เมื่อเราเลี้ยงลูกแบบปกป้องมากเกินไป
 

เลี้ยงลูก แบบปกป้องมากเกินไปไม่ดีตรงไหน? เพราะโลกภายนอกมีผู้คนมากมายและเราไม่มีทางรู้ได้เลยว่าอะไรจะเกิดขึ้นกับลูกเรา ดังนั้นการที่เราคอยระวังหลังให้ลูกทุกอย่าง เพื่อให้เขามีสุขภาพกายและใจที่แข็งแรง รวมไปถึงการประสบความสำเร็จในชีวิต โดยไม่พบเจอกับความล้มเหลว จึงเป็นเรื่องดีไม่ใช่หรือ? 

 


เพิ่มเพื่อน
 

 

แต่คุณพ่อคุณแม่รู้หรือไม่คะ ว่านักจิตวิทยาได้ให้ข้อมูลว่า เลี้ยงลูก แบบปกป้องมากเกินไปหรือที่เราคุ้นหูกันว่า “เลี้ยงลูกแบบไข่ในหิน” สามารถส่งผลเสียต่อพฤติกรรมของลูกรักได้เช่นกันค่ะ

 

1. กลายเป็นเด็กขี้กังวล

ไม่กล้าเข้าสังคม เพราะการไม่ให้เขาได้เผชิญกับความล้มเหลว หรือเจอความผิดพลาดบ้างเลย จะทำให้เด็กอ่อนไหวกับทุกอย่างที่อยู่รอบตัวเขาได้ง่าย ไม่ว่าจะเป็นสิ่งเล็ก ๆ หรือใหญ่ เช่น ไม่กล้าตอบคำถามเพราะกลัวผิด ไม่กล้ากระโดดเพราะกลัวล้ม 

 

ซึ่งจากงานวิจัยค้นพบว่า การเลี้ยงลูกแบบปกป้องมากเกินไป จะส่งผลให้เด็กเกิดความเครียดในระดับมาก จนเป็นโรควิตกกังวล (Anxiety disorder)    

 

2.  ขาดทักษะในการแก้ไขปัญหา

เมื่อเขาต้องเผชิญกับงานหรือกิจกรรมที่ท้าทาย ก็จะเกิดความท้อแท้ได้ง่าย เพราะเดิมทีเขาถูกเลี้ยงดูเหมือนอยู่ในเกราะที่คอยป้องกันเขาจากโลกภายนอก ดังนั้นเมื่อต้องเจอสถานการณ์ที่กดดัน จึงทำให้เขารู้สึกอ่อนไหวและใจสลายได้ง่าย 

 

 

"แก้ไขปัญหา"

 

 

3. มักจะตกเป็นเป้าและโดนเพื่อนแกล้ง 

เพราะเด็กมักจะถูกเลี้ยงดูแบบประคบประหงมเหมือนเป็นเด็กตลอดเวลา และไม่ได้มีโอกาสออกไปเล่นกิจกรรมผาดโผน ผจญภัยมากนัก เช่น ปั่นจักรยาน เล่นสเก็ตบอร์ด ปีนผาจำลอง หรือออกไปเล่นข้างนอกกับเพื่อนเลย

 

จึงทำให้เด็ก ๆ ขาดทักษะในการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า การจัดการความขัดแย้ง และการสร้างภูมิคุ้มกันให้กับตัวเอง ดังนั้นเมื่อเขาไม่รู้วิธีการเอาตัวรอด จึงทำให้ตกเป็นเป้าให้เพื่อนกลั่นแกล้งได้ง่าย 

 

4. ขาดทักษะในการตัดสินใจที่ดี 

เพราะผู้เลี้ยงดูมักจะตัดสินใจแทนว่าอะไรควรหรือไม่ควรทำ ทำให้เด็ก ๆ ขาดการฝึกฝนในการตัดสินใจด้วยตนเอง ทำให้เมื่อพวกเขาโตขึ้นเป็นผู้ใหญ่หรือต้องเริ่มตัดสินใจเรื่องเล็ก ๆ จึงไม่สามารถตัดสินใจเองได้  

 

เพราะกลัวจะตัดสินใจผิดพลาดและเขาเรียนรู้มาตลอดว่าชีวิตเขาของขึ้นอยู่กับพ่อแม่มากกว่าความอิสระของตนเอง

 

นอกจากนี้ หากเราไม่สามารถปล่อยวางหรือเปลี่ยนวิธีการเลี้ยงดู ก็อาจนำไปสู่การเลี้ยงดูแบบควบคุม มีการสร้างกฎเกณฑ์ที่เข้มงวด จนทำให้เขารู้สึกขาดอิสรภาพและไม่มีความสุขได้นะคะ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเขาเริ่มโตไปเจอโลกภายนอกและเราไม่สามารถอยู่ใกล้ลูกรักตลอดเวลาได้ค่ะ

 

 

 

 

ดังนั้นเพื่อเลี้ยงดูให้ลูกรักเติบโตเป็นเด็กที่สามารถพึ่งพาตนเองได้ในสังคมและมีความสุขในการใช้ชีวิต

วันนี้ BrainFit มีข้อแนะนำในการปรับ วิธีการเลี้ยงดูอย่างถูกต้อง มาฝากคุณพ่อคุณแม่กันค่ะ 

 

1.  พูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับพ่อแม่คนอื่น ๆ

เกี่ยวกับวิธีการเลี้ยงดูหรือไอเดียใหม่ ๆ แต่ใดใดก็แล้วแต่ มีสิ่งหนึ่งที่สำคัญคือการเลี้ยงดูที่ดีไร้ที่ตินั้นไม่มีอยู่จริง และไม่มีวิธีตายตัวสำหรับสถานการณ์เฉพาะหรือบุคคลเฉพาะแน่นอนค่ะ 

 

2.  เปิดใจพูดคุยกับลูกรัก

พยายามให้บทสนทนาที่พูดคุยกับลูกรัก เป็นหัวข้อที่เขาสนใจและอยากจะแลกเปลี่ยนกับเรา แม้ว่าเรื่องที่เขาพูดออกมาอาจจะไม่ใช่สิ่งที่เราเห็นด้วย แต่การที่เขาได้แลกเปลี่ยนและเปิดกว้างทางความคิด จะทำให้เราเข้าใจและเห็นความต้องการของเขาและเราจะสามารถปรับกิจกรรมที่เขาชอบได้ง่ายขึ้นด้วยค่ะ

 

"เลี้ยงลูก"

 

 

3.  ใจดีกับตัวเองและลูกรัก

ลองปล่อยให้ใจเราได้ผ่อนคลาย เมื่อเขาอยากออกไปเล่นข้างนอก ได้ทำกิจกรรมท้าทายหรือปีนป่ายบ้าง คุณพ่อคุณแม่ควรปล่อยให้ลูกรักได้ลองเผชิญผลลัพธ์ต่าง ๆ ด้วยตัวเขาเอง เช่น การสะดุดล้ม การโดนเพื่อนแย่งของเล่น หรือการแพ้ชนะก็ตาม เพื่อให้เขาเรียนรู้ความล้มเหลวและกล้าจัดการปัญหาด้วยตัวเขาเอง ซึ่งจะช่วยให้เราเห็นกระบวนการคิดของเขาไปในตัวด้วยนะคะ 

 

4.  ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ

หากคุณพ่อคุณแม่มีความยากลำบากในการปรับหาวิธีเลี้ยงดู เราสามารถรับคำปรึกษากับผู้เชี่ยวชาญ เช่น นักจิตวิทยาเด็ก นักบำบัด หรือจิตแพทย์ ได้เช่นกันค่ะ เพื่อหาวิธีการเลี้ยงดูที่เหมาะสมต่อลูกรัก และคุณพ่อคุณแม่เองก็มีความสุขไปพร้อมกับตัวเขาด้วยเช่นกัน  

 

 

พัฒนาสมาธิ และทักษะการเรียนรู้ให้เด็ก 3-18 ปี ☀️

 

 

 

 

จันทร์ อังคาร พุธ เสาร์ และ อาทิตย์  

02-656-9938 / 02-656-9939 02-656-9915

วันพฤหัสบดี-วันศุกร์  091-774-3769


เพิ่มเพื่อน

LINE: @brainfit_th 

 

 

Sources: Pamela Li (2022), Lauren Barth (2020)

Contact Us

If you would like to have your child attend our course, or you would simply like more information, please contact us today.

BrainFit Studio Thailand 2nd floor, Ploenchit Center,
Sukhumvit Soi 2, Bangkok 10110BTS Ploenchit Station Exit 4