ดิสเล็กเซีย (Dyslexia) มีสาเหตุมาจากอะไรกันนะ?

ดิสเล็กเซีย (Dyslexia) มีสาเหตุมาจากอะไรกันนะ?

 

 

เมื่อพูดถึง ดิสเล็กเซีย (Dyslexia) เชื่อว่าบางท่านอาจจะสงสัยหรือเคยได้ยินมาบ้าง แล้ว Dyslexia คืออะไรกันแน่

 

          คำว่า Dyslexia รากศัพท์แยกออก 2 ส่วน คำว่า dys มี 2 ความหมายคือ ไม่/ ความยากลำบาก/ (not /difficulties) ส่วนคำว่า lexia หมายถึง คำ การอ่าน ภาษา (words, readings, language) เมื่อรวม 2 ส่วนเป็นคำเดียวกัน จึงหมายถึง ความยากในการใช้คำ หรือปัญหาในการใช้ภาษานั่นเอง

 

 

ภาวะดิสเล็กเซียเกิดจากสมองที่เกี่ยวข้องกับการอ่าน และการใช้ภาษาทำงานบกพร่อง ซึ่งในปัจจุบันยังไม่ทราบแน่ชัดว่าอะไรเป็นตัวการที่ทำให้เกิดภาวะนี้ แต่ได้มีข้อสันนิษฐานจากทีมแพทย์ออกมาว่า อาการนี้มีแนวโน้มที่จะเกิดจากการถ่ายทอดทางพันธุกรรม เพราะความบกพร่องของสมองที่ใช้ในเรื่องของการอ่าน และภาษา 

 

? นอกจากนี้ยังมีปัจจัยอื่น ๆ ที่สามารถส่งผลให้เกิดอาการ Dyslexia ปัจจัยเหล่านั้นได้แก่ (Ola Ozernov-Palchik, et al., 2016)

     1. ปัจจัยทางพันธุกรรม

     2. ความแตกต่างของสมองแต่ละบุคคล

     3. ความแตกต่างในการการรับรู้ หรือความรู้ความเข้าใจของแต่ละบุคคล
 

  • ฟังก์ชั่นเกี่ยวกับการรับรู้ทำงานผิดปกติ
     
  • พัฒนาการทางภาษาผิดปกติและ / หรือเกี่ยวข้องกับเรื่องของสมาธิ
     
  • ความผิดปกติของการประมวลผล ความรู้เกี่ยวกับตัวอักษร คำศัพท์ และ Executive Functions


     4. ปัจจัยด้านสิ่งแวดล้อม
 

  • ความเครียด และการประสบกับเหตุการณ์อันไม่พึงประสงค์อื่น ๆ
     
  • การได้รับการศึกษาที่ไม่มีประสิทธิภาพ

 

เรายังทราบอีกด้วยว่าการอ่านไม่ได้ใช้สมองเพียงส่วนใดส่วนหนึ่ง เพื่อที่จะช่วยให้เราสามารถอ่านได้เท่านั้น เพราะได้มีงานวิจัยเรื่อง Language, Speech, and Hearing  Services in Schools จาก D'Mello และ Gabrieli ในปี 2018 ออกมายืนยันว่า ในการอ่านหนึ่งครั้ง เราต้องใช้สมองถึง 3 ส่วนทำงานร่วมกัน เพื่อที่จะทำให้เราสามารถอ่านได้อย่างมีประสิทธิภาพ นั่นก็คือ
 

  1. สมองส่วน Inferior frontal lobe ทำหน้าที่เกี่ยวกับเรื่องของการคิดวิเคราะห์   
     
  2. สมองส่วน Temporo-parietal cortex ทำหน้าที่เกี่ยวกับการได้ยิน และการประมวลผลเสียงที่ได้ยิน
     
  3. สมองส่วน Occipital temporal cortex ทำหน้าที่เกี่ยวกับการมองเห็น และประมวลผลสิ่งที่เห็น
ดิสเล็กเซีย

 


? ผู้ที่เป็น Dyslexia มักจะพบปัญหาที่ชัดเจนอยู่ 2 ด้านด้วยกัน คือ

 

     1. พบปัญหาด้านการอ่านอยู่บ่อยครั้ง ซึ่งจะส่งผลต่อการสะกดคำด้วย  โดยสังเกตจากการอ่านเมื่อเทียบกับระดับชั้นเรียนของตนเอง มักพบว่า มีการอ่านตะกุกตะกัก เดาคำ หรือพยายามที่จะอ่านเกริ่นเสียงออกมาเพื่อช่วยให้อ่านได้ ซึ่งนี่คือสัญญาณบ่งบอกว่า ความสามารถในการวิเคราะห์เสียงและคำ ทำงานไม่เชื่อมโยงกัน (Fluent word recognition)

 

     2. ความสามารถในการอ่านคำใหม่ ๆ ทำงานได้ไม่เต็มที่ เมื่อเห็นตัวอักษรและคำใหม่ ไม่สามารถที่จะนำอักษรและสระมาผสมและสร้างคำอ่านที่เหมาะสมหรืออ่านใกล้เคียงได้ ซึ่งจะส่งผลไปยังทักษะทางด้านความเข้าใจทางการอ่านอีกด้วย ซึ่งบางรายเข้าใจผิด คิดว่าเกิดจากทักษะด้านการมอง ซึ่งจริง ๆ แล้วคือความไวและความสามารถในการประมวลผลทางด้านการวิเคราะห์หน่วยเสียงในภาษานั่นเอง   

 

 

? แล้วทำอย่างไรดีเมื่อมีภาวะดิสเล็กเซีย ?

 

ผู้ที่มีภาวะดิสเล็กเซีย ควรได้รับการฝึกและกระตุ้นสมองอย่างถูกวิธี มิฉะนั้นแล้ว ปัญหาด้านการอ่าน เขียน และสะกดคำก็จะยังคงเป็นปัญหาต่อไปเรื่อย ๆ

 

สถาบันมีโปรแกรมพัฒนาสมอง Fast ForWord® โปรแกรมนี้เหมาะสำหรับผู้ที่มีอาการดิสเล็กเซียเป็นอย่างยิ่ง เนื่องจากผู้ที่มีอาการดิสเล็กเซียจะมีความผิดปกติของการได้ยิน โดยจะมีจุดอ่อนอยู่ที่การประมวลผลเสียงที่ได้ยินเป็นหลัก ซึ่งโปรแกรม Fast ForWord® จะเข้าไปแก้ไขปัญหาเหล่านี้โดยจะค่อย ๆ เข้าไปพัฒนา แล้วกระตุ้นให้สมองที่เกี่ยวข้องกับการฟัง การอ่าน และการใช้ภาษาถูกใช้งานซ้ำ ๆ จนเกิดการสร้างเส้นใยสมองเพิ่มมากขึ้น และใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น โดยพัฒนาตั้งแต่ความสามารถระดับพื้นฐานของสมอง 

 

ดิสเล็กเซีย

 


โปรแกรม Fast ForWord® ออกแบบจากการวิจัยรองรับแล้วว่า สามารถช่วยกระตุ้นและพัฒนาทักษะภาษาให้กับผู้ที่เป็น Dyslexia ได้อย่างตรงจุด แก้ปัญหาที่ต้นเหตุ และเห็นผลลัพธ์ถาวร!

 

 


 

-----------------------------------


 02-656-9938 / 02-656-9915 / 091-774-3769
 

LINE: @brainfit_th

เพิ่มเพื่อน

 

 

Contact Us

If you would like to have your child attend our course, or you would simply like more information, please contact us today.

BrainFit Studio Thailand 2nd floor, Ploenchit Center,
Sukhumvit Soi 2, Bangkok 10110BTS Ploenchit Station Exit 4