เคล็ดลับ แก้ไขอาการ พูดไม่ชัด จับใจความไม่ได้!
- พูดออกเสียงคำต่าง ๆ ได้ไม่ชัด
- ฟังไม่ทัน
- ไม่สามารถจับใจความจากการฟังได้
- ไม่มีสมาธิจดจ่อกับเนื้อหาที่กำลังฟัง
เหตุการณ์เหล่านี้ กำลังทำให้เด็ก ๆ เกิดความท้อแท้ หมดความมั่นใจในการสื่อสาร หรือหมดความตั้งใจที่จะเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ อยู่หรือเปล่า?
หากเป็นเช่นนั้น บทความนี้จะช่วยให้เด็ก ๆ กลับมามีไฟ กล้าที่จะพูดจาเพื่อสื่อสาร และมีความตั้งใจในการเรียนรู้สิ่งต่าง ๆ เพิ่มมากขึ้นอีกครั้ง!
เนื่องจากการฟังเป็นทักษะที่สำคัญเป็นอย่างมาก สำหรับการเรียนรู้ เพราะหากเด็ก ๆ ฟังไม่คล่อง ฟังได้ไม่ชัดเจน หรือไม่มีสมาธิที่ดีเกี่ยวกับการฟัง สิ่งนี้อาจส่งผลให้พวกเขา
- พูดไม่ชัด เพราะมีต้นแบบเสียงที่ไม่ถูกต้องชัดเจน
- ไม่สามารถจดจำสิ่งที่ได้ยิน หรือจำได้เป็นคำ ๆ ไม่เป็นประโยคต่อเนื่อง
- ฟังตกหล่น จนทำให้ไม่เข้าใจในคำสั่ง
- จับใจความสิ่งที่ได้ยินไม่ได้
หากเป็นเช่นนั้น สิ่งเหล่านี้ก็จะเป็นอุปสรรคที่ขัดขวางโอกาสดี ๆ มากมายที่เด็ก ๆ ควรจะได้รับ แถมยังส่งผลต่อบุคลิกภาพ และความภาคภูมิใจในตัวเองของเด็ก ๆ ด้วย ซึ่งนั่นไม่ส่งผลดีต่อตัวของเด็ก ๆ อย่างแน่นอน
ดังนั้น วันนี้เราจึงได้นำเอาเคล็ดลับดี ๆ ที่จะช่วยให้เด็ก ๆ ฟังได้ชัดเจนมากขึ้น! ตกหล่นน้อยลง! และทำให้พวกเขาสามารถมีสมาธิจดจ่อกับสิ่งที่กำลังฟังได้นานยิ่งขึ้น! มาฝากกัน ไปดูกันต่อเลยดีกว่าค่ะว่ามีอะไรบ้าง...
เคล็ดลับช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการฟัง
1. นั่งสมาธิ
เราสามารถฝึกให้เด็ก ๆ มีสมาธิจดจ่อกับสิ่งที่ฟังได้โดยการนั่งสมาธิอย่างสม่ำเสมอ โดยอาจจะเริ่มจากระยะเวลาสั้น ๆ วันละประมาณ 5 นาทีก่อนก็ได้ จากนั้นจึงเพิ่มเวลาเป็น 10 นาที ถ้าพวกเขาไหว เนื่องจากปกติเด็ก ๆ จะมีสมาธิจดจ่อกับงานได้เพียงไม่นาน จากนั้นสมาธิของพวกเขาก็จะหลุดลอยไป ทำให้ในหัวของเด็ก ๆ ไม่สามารถจดจ่อกับงาน หรือสิ่งที่ฟังอยู่ แต่กลับไปคิดเรื่องอื่นแทน
ดังนั้นการนั่งสมาธิก็จะเป็นการเพิ่มสมาธิจดจ่อ ในการฟัง การเรียน หรือการทำงานของเด็ก ๆ ให้นานขึ้นได้ และช่วยลดเวลาการคิดฟุ้งซ่านของพวกเขาได้เป็นอย่างดีเลยละค่ะ
2. ฝึกการฟังจับใจความ
ฝึกการฟังจับใจความให้บ่อย โดยหากคุณไม่รู้ว่าควรเริ่มจากตรงไหนให้คุณเลือกนิทานมาสัก 1 เรื่อง เพื่อนอ่านให้เด็กฟัง จากนั้นถามคำถามที่เกี่ยวกับสิ่งที่เราอ่านไปเช่น ถามชื่อตัวละคร ถามถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น หรือถามบทสรุปสุดท้ายของเหตุการณ์ที่พวกเขาพึ่งได้ฟังไป เป็นต้น
หากเด็ก ๆ ฝึกทักษะนี้ซ้ำ ๆ บ่อยครั้ง ก็จะช่วยทำให้ทักษะการจับใจความของพวกเขาแข็งแรงขึ้น และสิ่งนี้จะช่วยให้เด็ก ๆ
ฟังได้เก่งขึ้น!
เข้าใจเนื้อหาที่ฟังได้ดีขึ้น!!
และจดจำเนื้อหาที่ได้ยินได้ดียิ่งขึ้นนั่นเอง!!!
3. พัฒนาทักษะการฟังด้วยโปรแกรม Fast ForWord®
โปรแกรม Fast ForWord® สามารถช่วยพัฒนาสมองส่วนที่เกี่ยวข้องกับการฟังให้ทำงานได้อย่างเต็มที่ และมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น!
เนื่องจากโปรแกรม Fast ForWord® มีหลักการทำงานคือ โปรแกรมจะฝึกทักษะด้านการฟังเสียงอย่างแม่นยำให้กับผู้เรียน โดยเริ่มจากการฟังตั้งแต่ หน่วยเสียงย่อยแต่ละหน่วย ของภาษาอังกฤษ ซึ่งผู้ฟังจะต้องสามารถฟังแล้วแยกแยะความแตกต่างของเสียงย่อยเหล่านี้ได้อย่างถ่องแท้
โปรแกรมจะมีการสร้างแรงจูงใจกระตุ้นให้ผู้ใช้ตอบคำถามอย่างต่อเนื่อง ซึ่งการสร้างแรงจูงใจนี้เอง จะช่วยให้ผู้เรียนมีสมาธิกับการฟังมากขึ้น และสามารถจดจ่อกับการฟังได้นานยิ่งขึ้น
โดยการใช้โปรแกรมแต่ละครั้ง ผู้เรียนจะได้ฝึกฟังมากถึง 1,000 คำถาม ซึ่งเป็นจำนวนที่เหมาะสมในการกระตุ้นให้เกิดการพัฒนาสมองส่วนของการฟัง
ดังนั้นเมื่อเด็ก ๆ ฝึกฝนอย่างต่อเนื่อง ด้วยความเข้มข้นที่เพียงพอ สมองของพวกเขาก็จะเกิดการสร้างความเชื่อมโยงของเส้นใยประสาทที่เกี่ยวของกับการฟังขึ้นมา ทำงานเชื่อมโยงกับสมองส่วนอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการเรียนภาษา ซึ่งตัวโปรแกรมจะพัฒนาไปพร้อม ๆ กันด้วย นี่จึงเป็นเหตุผลที่ทำให้เด็ก ๆ มีทักษะการฟังที่ดีขึ้น ได้รับการพัฒนาทักษะทางภาษาอย่างตรงจุด และมีสมาธิจดจ่อกับการฟังได้ยาวนานขึ้น ซึ่งนั่นหมายความว่า
“ เด็ก ๆ จะสามารถใช้ทักษะสมองด้านการฟัง
และภาษาได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นนั่นเอง!!! ”
สุดท้ายนี้ทางสถาบันก็หวังว่า เคล็ดลับต่าง ๆ ที่เรานำมาฝากในวันนี้ จะสามารถเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยเสริมสร้างทักษะการฟังของเด็ก ๆ ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น เพื่อเป็นพื้นฐานในการต่อยอดความสำเร็จของพวกเขาในอนาคต!
พัฒนาทักษะการฟังอย่างยั่งยืน ไปกับโปรแกรม Fast ForWord®
โปรแกรม Fast ForWord® ช่วยพัฒนาทักษะอะไร?
เสียงตอบรับจากผู้ปกครองน้องนลิน หนึ่งในนักเรียนที่น่ารักของเรา
------------------
ติดต่อขอทดลองเรียน ฟรี!
จันทร์ อังคาร พุธ เสาร์ และ อาทิตย์ 02-656-9938 / 02-656-9939 / 02-656-9915
วันพฤหัสบดี-วันศุกร์ 091-774-3769
https://www.posttoday.com/life/work-life-balance/559184