ทำอย่างไร? เมื่อลูกไม่กล้าพูดภาษาอังกฤษ

 

ทำอย่างไร? เมื่อ ลูกไม่กล้าพูดภาษาอังกฤษ

 

พูดถึงภาษาอังกฤษในยุคสมัยปัจจุบัน ถือว่ามีความสำคัญเป็นอย่างมาก ทั้งในการเรียน การทำงาน และการติดต่อสื่อสารกับผู้อื่น แต่จะทำอย่างไรดีล่ะเมื่อ ลูกไม่กล้าพูดภาษาอังกฤษ เอาเสียเลย พาไปเรียนพิเศษก็ยังไม่ดีขึ้น เพราะอะไรกันนะลูกถึงไม่กล้าพูด คุณพ่อคุณแม่กำลังประสบกับปัญหานี้อยู่หรือเปล่าคะ?

ถ้าใช่ หายห่วงได้เลยค่ะ เพราะวันนี้ BrainFit จะมาช่วยคุณพ่อคุณแม่ทุกท่าน ทำความเข้าใจและแก้ไขปัญหานี้ไปด้วยกัน เพื่อให้ลูกของเรากล้าพูดภาษาอังกฤษได้อย่างมั่นใจมากยิ่งขึ้น

 

ก่อนอื่นเรามาดูกันก่อนเลยว่า เพราะอะไรกันนะ? ที่ทำให้ ลูกไม่กล้าพูดภาษาอังกฤษ

 

สาเหตุที่ทำให้ลูกไม่กล้าพูดภาษาอังกฤษนั้น มีหลายปัจจัย ดังเช่น

 

1. สภาพแวดล้อมไม่เอื้อต่อการเรียนรู้

 

เพราะลูกใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่ที่บ้านกับคุณพ่อคุณแม่ ดังนั้นหากที่บ้านไม่มีใครพูดภาษาอังกฤษ หรือไม่มีสื่อภาษาอังกฤษเลย อาจเป็นเรื่องยากที่จะทำให้ลูกอยากเรียนรู้ภาษาอังกฤษไปด้วย ดังนั้นเรามาเริ่มปรับสภาพแวดล้อมรอบตัวลูกให้มีภาษาอังกฤษเข้ามาเกี่ยวข้องมากขึ้น หากิจกรรมที่ช่วยส่งเสริมทักษะภาษาอังกฤษทำร่วมกัน

 

เช่น ฟังเพลงภาษาอังกฤษ ดูการ์ตูนภาษาอังกฤษ พาลูกไปเล่นกับเพื่อนชาวต่างชาติ อ่านนิทานภาษาอังกฤษที่บ้าน ฯลฯ ปรับสิ่งแวดล้อมให้ลูกได้เจอกับการพูดภาษาอังกฤษมากขึ้น เพื่อทำให้ลูกรู้สึกคุ้นเคยและอยากเรียนรู้ภาษาอังกฤษมากขึ้นนั่นเองค่ะ ที่สำคัญคุณพ่อคุณแม่อย่าลืมทำเป็นตัวอย่างให้ลูกเห็นบ่อย ๆ นะคะ เพราะเมื่อลูกเห็นว่าคุณพ่อคุณแม่ชอบภาษาอังกฤษ ลูกก็จะเริ่มสนใจและอยากเรียนรู้มากขึ้นด้วยนั่นเองค่ะ

 

2. เกิดจากลักษณะนิสัยของลูก

 

เพราะลูกเป็นเด็กขี้อาย ไม่กล้าเข้าสังคม ขาดความมั่นใจในตัวเอง ดังนั้น การพูดภาษาอังกฤษอาจเป็นเรื่องยากสำหรับลูก แต่ไม่ต้องห่วงค่ะ เราสามารถช่วยปรับพฤติกรรมของลูกให้ดีขึ้นได้ อาจเริ่มจากการพาลูกออกไปเจอสังคม หรือสภาพแวดล้อมใหม่ๆ ได้เจอเพื่อน ใช้เวลากับเพื่อน เล่นกับเพื่อนมากขึ้น หรือพาไปทำกิจกรรมนอกบ้าน ให้ลูกได้ลองพบปะกับสังคมใหม่ ๆ เพื่อนใหม่มากขึ้น

 

แล้วสิ่งสำคัญคือ การชื่นชมลูกอย่างจริงใจ เมื่อลูกสามารถทำบางอย่างได้สำเร็จแม้จะเป็นสิ่งเล็ก ๆ น้อย ๆ ก็ตาม เพราะการชื่นชม สามารถเพิ่มกำลังใจและความมั่นใจให้ลูกได้เป็นอย่างดี ทำให้ลูกกล้าทำสิ่งใหม่มากยิ่งขึ้น ซึ่งจะส่งผลให้การเรียนรู้ภาษาอังกฤษของลูกพัฒนาได้มากขึ้นอีกด้วย

 

3. มีคลังคำศัพท์ภาษาอังกฤษน้อย

 

หากลูกของเรากำลังอยู่ในช่วงเรียนรู้ภาษาอังกฤษ คำศัพท์ที่ลูกรู้จักอาจจะยังน้อยอยู่ ทำให้ลูกยังไม่มั่นใจหรือไม่รู้ว่าคำนั้นพูดว่าอย่างไร จึงทำให้ลูกไม่กล้าพูดภาษาอังกฤษนั่นเอง คุณพ่อคุณแม่อาจช่วยทบทวนหรือพูดคุยเป็นภาษาอังกฤษกับลูกที่บ้าน โดยพูดคำศัพท์คำนั้นบ่อย ๆ หรืออาจหากิจกรรมที่ช่วยเสริมสร้างทักษะภาษาอังกฤษทำร่วมกันที่บ้าน

เช่น อ่านการ์ดภาษาอังกฤษ เกม Crossword อ่านนิทานภาษาอังกฤษ แสดงละครภาษาอังกฤษ ฯลฯ เมื่อลูกได้เจอกับคำศัพท์ที่คุ้นเคยบ่อย ๆ สมองก็จะสามารถจดจำและนำมาใช้ได้อย่างเป็นธรรมชาติมากขึ้น ลูกเองก็จะมีคลังคำศัพท์ภาษาอังกฤษเพิ่มมากขึ้นนั่นเองค่ะ

 

4. เคยถูกตำหนิเกี่ยวกับภาษาอังกฤษ

 

บางครั้งอาจเป็นเพราะลูกเคยได้รับการตำหนิเวลาพูดภาษาอังกฤษมาก่อน ทำให้ลูกสูญเสียความมั่นใจ ไม่อยากพูด หรือกลัวจะพูดผิด หากเป็นเช่นนี้ เราสามารถช่วยลูกได้ ด้วยการให้กำลังใจและชื่นชม เช่น หากลูกพูดผิดแล้วเราต้องการช่วยแก้ไข ก่อนอื่นให้ชื่นชมในความพยายามของลูก เพื่อเป็นกำลังใจลูกก่อน

เช่น “เมื่อกี้ลูกพูดได้ค่อนข้างดีเลยนะ แต่ถ้าจะดีมากขึ้นอีก คำนี้ต้องออกเสียงแบบนี้นะลูก” “ไม่เป็นไรนะจ๊ะ ไหนลองใหม่ดูสิลูก”

 

การช่วยปรับแก้เช่นนี้ โดยการชื่นชมกับสิ่งที่ลูกพยายามทำก่อน จะไม่ส่งผลเสียต่อจิตใจของลูก แต่ยิ่งทำให้ลูกมีกำลังใจและมีความมั่นใจมากขึ้นกับการเรียนรู้ อย่าลืมนะคะ การชื่นชมและให้กำลังใจสำคัญต่อความมั่นใจของลูกมาก ๆ เลยล่ะค่ะ ดังนั้นอย่าลืมชื่นชมลูกเมื่อลูกได้พยายามทำบางสิ่งอย่างเต็มที่นะคะ

 

5. รู้สึกว่าภาษาอังกฤษยากเกินไป

 

หลายครั้งที่ลูกไม่กล้าพูดภาษาอังกฤษเป็นเพราะลูกไม่ชอบเรียน จึงส่งผลให้ลูกไม่อยากพูดภาษาอังกฤษนั่นเอง ทั้งนี้อาจเป็นเพราะเนื้อหาหรือบทเรียนที่โรงเรียนนั้นยากเกินความสามารถของลูก จนทำให้ลูกรู้สึกหมดกำลังใจและไม่ชอบวิชาภาษาอังกฤษไปในที่สุด

 

คุณพ่อคุณแม่อาจลองพูดคุยกับลูกก่อนเพื่อสร้างความเข้าใจให้ตรงกัน เพราะอะไรลูกถึงไม่ชอบ แสดงความเห็นอกเห็นใจให้ลูกเห็นว่าพ่อกับแม่เข้าใจลูกนะ ภาษาอังกฤษอาจจะยากในช่วงแรก แต่เราสามารถค่อย ๆ เรียนรู้ไปได้ทีละเล็กทีละน้อยไปเรื่อย ๆ ลูกรู้ไหมว่าการมีทักษะภาษาอังกฤษที่ดีจะสร้างโอกาสดี ๆ กับลูกมากมายเลยนะ ทั้งยังเปิดโลกกว้างทำให้ลูกสื่อสารกับคนได้มากขึ้นด้วย เป็นต้น แสดงความเข้าใจ เห็นอกเห็นใจลูก และอธิบายเหตุผลของเราให้ลูกฟัง

 

เมื่อเข้าใจเหตุผลของลูกแล้ว คุณพ่อคุณแม่ก็ยังสามารถช่วยพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษให้ลูกได้หลายทางเลยทีเดียว เช่น ให้ลูกเรียนภาษาอังกฤษเพิ่มตามสถาบันกวดวิชา พาลูกไปเรียนซัมเมอร์คอร์สที่ต่างประเทศ หากิจกรรมเกี่ยวกับภาษาอังกฤษให้ลูกทำกับเพื่อน ๆ หรือเล่นเกมที่ช่วยเสริมสร้างทักษะภาษาอังกฤษกับลูก ฯลฯ เห็นไหมคะว่ามีหลายทางเลยในการพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษ ถึงอย่างไรก็ลองเลือกวิธีที่เหมาะกับลูกดูนะคะ เมื่อลูกเริ่มมองว่าภาษาอังกฤษเป็นเรื่องสนุก ทักษะภาษาอังกฤษของลูกจะพัฒนาขึ้นอย่างแน่นอนค่ะ

 

 

นอกจากนี้ยังมีอีก 1 วิธีที่จะช่วยให้ลูกรู้สึกสนุกไปกับการเรียนภาษาอังกฤษ แถมยังเรียนด้วยตัวเองได้ที่บ้านอีกด้วย นั่นคือ

โปรแกรม FastForWord โปรแกรมที่จะช่วยให้ลูกเก่งภาษาอังกฤษขึ้นได้ ผ่านการเล่นเกมสนุกสนาน พร้อมทั้งเสริมสร้างทักษะการฟัง สมาธิ การจดจ่อ และการคิดวิเคราะห์ให้ไวยิ่งขึ้น 

 

หรือโปรแกรม Reading Assistant Plus โปรแกรมที่จะช่วยเรื่องการอ่านออกเสียงภาษาอังกฤษให้ดีขึ้นเหมือนเจ้าของภาษา ได้เรียนรู้คำศัพท์และหลักไวยากรณ์ ผ่านหนังสือที่มีเนื้อหาน่าอ่านมากกว่า 400 เล่ม โปรแกรมจะช่วยตรวจจับเสียงอย่างแม่นยำและแก้ไขได้ทันทีเมื่อออกเสียงผิด เหมือนกับมีครูเจ้าของภาษามาคอยช่วยอยู่ข้าง ๆ เลยล่ะค่ะ

 

เป็นอย่างไรบ้างคะ กับสาเหตุที่ ลูกไม่กล้าพูดภาษาอังกฤษ ทั้ง 5 ข้อ มีข้อไหนตรงกับลูกของเราบ้างหรือเปล่า อย่างไรก็ตามเมื่อเราเริ่มเห็นว่าลูกเริ่มประสบปัญหาหรือมีสิ่งกังวลใจ คุณพ่อคุณแม่ควรจะเข้าไปพูดคุยถามไถ่ แสดงให้เห็นว่าเราอยู่ข้างลูกเสมอ อย่าเพิ่งตำหนิติลูกก่อนจะทราบเหตุผลที่แท้จริง ช่วยเหลือและให้กำลังใจลูกอยู่เสมอ การแสดงความรักและความสัมพันธ์ที่ดีกับลูกจะส่งผลให้ลูกมีจิตใจที่เข้มแข็ง และสามารถก้าวข้ามอุปสรรคทุกอย่างไปได้ด้วยดี และประสบความสำเร็จในที่สุด

 

และเนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 อาจทำให้หลาย ๆ ครอบครัวไม่สามารถออกไปไหนได้ ซึ่งการอยู่บ้านไม่ได้หมายความว่าลูกของเราจะเรียนรู้สิ่งต่างๆ ไม่ได้

 

ทางสถาบัน BrainFit มีโปรแกรมฝึกภาษาอังกฤษที่จะช่วยปรับทักษะภาษาอังกฤษให้ดีขึ้นได้ ตั้งแต่ระดับพื้นฐานจนถึงระดับสูง เรียนรู้ผ่านเกมที่สนุกสนานด้วยโปรแกรม FastForWord และยังมีโปรแกรม Reading Assistant Plus ที่จะช่วยเรื่องการอ่านออกเสียงให้ชัดเจนยิ่งขึ้นเหมือนเจ้าของภาษา มาใช้เวลาว่างในช่วงนี้ให้เป็นประโยชน์ เพื่ออนาคตที่ดีของลูก ๆ กันเถอะค่ะ

 

 

 

BrainFit รับสมัครน้อง ๆ อายุตั้งแต่ 3-18 ปี

รับคำปรึกษาจากเรา ได้แล้ววันนี้ ฟรี!

ที่ 02-656-9938 / 02-656-9915 / 091-774-3769

LINE: @brainfit_th

Contact Us

If you would like to have your child attend our course, or you would simply like more information, please contact us today.

BrainFit Studio Thailand 2nd floor, Ploenchit Center,
Sukhumvit Soi 2, Bangkok 10110BTS Ploenchit Station Exit 4