“สั่งซ้ำ พูดไม่จำ ฟังไม่เข้าใจ” หรือ การประมวลผลทางด้านการฟังบกพร่องกันแน่?

 

“สั่งซ้ำ พูดไม่จำ ฟังไม่เข้าใจ” หรือ การประมวลผลทางด้านการฟังบกพร่องกันแน่?

 

เพิ่มเพื่อน

 

     คุณพ่อคุณแม่หลายท่านคงจะเหนื่อยกับปัญหา  การต้องพูดคุยกับลูกซ้ำ ๆ  บอกเท่าไหร่ก็ไม่ฟัง แถมยังไม่จดจำอีก  วันนี้เรามาทำความเข้าใจสาเหตุของอาการเหล่านี้ เพื่อที่จะได้แก้ไขปัญหาอย่างตรงจุดกันดีกว่าค่ะ อาการที่กล่าวมานั้น เป็นลักษณะที่สามารถพบได้ทั่วไปในเด็กที่ประสบปัญหาด้านการประมวลผลข้อมูลจากการฟัง (Central Auditory Processing Disorder) เป็นผลให้ฟังอะไรก็อาจไม่เข้าใจ คุณพ่อคุณแม่ต้องพูดซ้ำ ๆ หรือพูดอะไรออกไป ลูกก็ไม่สามารถจดจำได้อย่างครบถ้วน และเมื่อทักษะด้านการฟังซึ่งเป็นรากฐานของภาษาไม่แข็งแรงแล้ว ทักษะอ่าน รวมถึงการสื่อสารก็อาจประสบปัญหาได้ในอนาคต

  Central Auditory Processing Disorder (CAPD) คือ อาการที่มีความยากลำบากในการฟังเพื่อนำมาสื่อสาร ซึ่งเกิดจากความบกพร่องในทักษะการฟังหรือการประมวลผลทางด้านการฟังไม่แข็งแรงนั่นเอง (มักทำให้เกิดอาการ “สั่งซ้ำ พูดไม่จำ ฟังไม่เข้าใจ") โดยส่วนใหญ่มักจะถูกวินิจฉัยพร้อมกันกับอาการสมาธิสั้น อาทิ แยกเสียงที่ใกล้เคียงกันไม่ได้ ไม่เข้าใจเมื่อต้องอยู่ในที่ ๆ มีเสียงรบกวน หรือแม้กระทั่ง เรียกชื่อหลายครั้งแต่กลับไม่รู้ตัว ปัญหาเหล่านี้มีต้นตอมาจากทักษะการฟังโดยตรง ผู้ปกครองหลายท่านมักคิดว่า อาการดังกล่าวเกิดขึ้นกับเด็กเป็นเพราะ เด็กไม่มีความตั้งใจในการเรียนรู้ ไม่เก่ง คิดว่าเด็กมีอาการขาดสมาธิ ก้าวร้าว ดื้อ แท้จริงแล้วอาจเป็นเพราะความบกพร่องทางการฟังของเด็กที่ส่งผลให้ไม่สามารถฟังอะไรแล้วเข้าใจได้ทันที หรือต้องฟังคำสั่งซ้ำบ่อย ๆ หากยังปล่อยไว้โดยที่ไม่พัฒนาทักษะทางด้านการฟัง อาการเหล่านี้จะติดตัวเด็กไปตลอดชีวิต ไม่เพียงแค่นั้น ทักษะอื่น ๆ เช่น การพูด การอ่าน การเขียนก็จะได้รับผลกระทบไปด้วยเช่นกัน นั่นหมายความว่านี่จะเป็นอุปสรรคขัดขวางความสำเร็จในการเรียนรู้และส่งผลต่อความล้มเหลวในชีวิต นี่ไม่ใช่เรื่องเล็ก ๆ อีกต่อไป

 

      แนวทางการแก้ไขโดยการพาเด็กไปเรียนพิเศษเพิ่มเติม ให้เด็กฟังเสียงต่าง ๆ ที่หลากหลายเพื่อให้เกิดการจดจำ คือ การแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ วิธีที่เห็นผลและตรงจุดที่สุด คือ การพัฒนาทักษะทางด้านการฟังโดยการฝึกสมองในส่วนที่ควบคุมการได้ยิน (Temporal lobe) เพราะสมองส่วนนี้เป็นตัวการสำคัญในการวิเคราะห์เสียงและประมวลผลข้อมูลออกมา ดังนั้น สิ่งที่ได้ยินจะถูกต้องหรือไม่หรือจะเข้าใจมากน้อยเพียงใดก็ขึ้นอยู่กับความแข็งแรงของสมองนั่นเอง 

 

สั่งซ้ำ พูดไม่จำ ฟังไม่เข้าใจ

     จากผลงานวิจัยระดับนานาชาติกว่าร้อยฉบับรวมถึงสมาคมโสตสัมผัสและการแก้ไขการพูดแห่งประเทศไทย ยืนยันเป็นเสียงเดียวกันว่า Fast ForWord® เป็นโปรแกรมที่สามารถแก้ไขความบกพร่องด้านการประมวลผลทางด้านการฟังได้อย่างเห็นผลชัดเจนที่สุดภายในระยะเวลาไม่กี่เดือน Fast ForWord® ถูกออกแบบมาเพื่อเพิ่มศักยภาพในการวิเคราะห์เสียง และไม่น่าเชื่อว่าผลลัพธ์อื่น ๆ ที่ผู้ฝึกจะได้รับนอกเหนือจากทักษะการฟังแข็งแรงขึ้น คือ ความจำดีขึ้น สมาธิดีขึ้น ทักษะพื้นฐานทางภาษาอังกฤษ รวมถึงทุก ๆ ทักษะสามารถทำงานพร้อม ๆ กันได้อย่างมีประสิทธิภาพอีกด้วย และเมื่อทักษะพื้นฐานทางภาษาอังกฤษดีขึ้นแล้ว การต่อยอดการเรียนภาษาอังกฤษในขั้นสูง อาทิ คำศัพท์ การเขียน ไวยากรณ์ การอ่านจับใจความ และการสรุปความ ก็จะไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป

 

 

  

 

 

อ่านผลงานวิจัยยืนยันประสิทธิภาพของ Fast ForWord®  ได้ที่:

www.scilearn.com/blog/new-fast-forword-research

http://www.thaisha.or.th/content/article/การรู้จักและช่วยเหลือเด็กที่มีปัญหาการประมวลเสียงจากระบบประสาทส่วนกลาง

 

ติดต่อเรา

ขอรับคำปรึกษาได้ฟรี โทร 02-656-9938 – 9 

วันพฤหัสบดี-วันศุกร์ 091-774-3769

Line: @brainfit_th

เพิ่มเพื่อน

 

 

 

Contact Us

If you would like to have your child attend our course, or you would simply like more information, please contact us today.

BrainFit Studio Thailand 2nd floor, Ploenchit Center,
Sukhumvit Soi 2, Bangkok 10110BTS Ploenchit Station Exit 4