มาทำความรู้จักกับเชื้อไวรัส โคโรนา กันเถอะ!!!

 

มาทำความรู้จักกับเชื้อไวรัส โคโรนา กันเถอะ!!!

 

ช่วงนี้สิ่งที่ชาวไทยกำลังให้ความสนใจกันเป็นอย่างมากก็คือเจ้าเชื้อไวรัส โคโรนา ซึ่งเชื้อไวรัส โคโรนา ตัวนี้เป็นเชื้อไวรัสสายพันธ์ุใหม่ที่มีขนาดใหญ่ พบได้ทั้งในคน และสัตว์ เกิดขึ้นครั้งแรกที่เมืองอู่ฮั่น สาธารณรัฐประชาชนจีน ที่ทำให้เกิดอาการได้ตั้งแต่เป็นหวัดเพียงเล็กน้อยไปจนถึงการป่วยรุนแรงจนเสียชีวิต

 

 

  มาทำความรู้จักกับไวรัส โคโรนา กันเถอะ!!!  

เชื้อไวรัส โคโรนา ที่เกิดขึ้นในคนแต่เดิมมี 6 สายพันธ์ุ ซึ่งทำให้เกิดโรคหวัด และโรคในระบบทางเดินหายใจ และมี 2 สายพันธ์ุที่ทำให้เกิดอาการระบบทางเดินหายใจอักเสบแบบเฉียบพลัน คือ “ โรคซาร์ส ” และ “ โรคเมอร์ส ” ซึ่งเป็นโรคที่ทำให้ผู้ติดเชื้อเสียชีวิตได้ร้อยละ 10 และ ร้อยละ 30 ตามลำดับ

 

ซึ่งเชื้อไวรัส โคโรนา ตัวนี้ถือเป็นเชื้อไวรัสสายพันธ์ุที่ 7 ที่ก่อให้เกิดอาการระบบทางเดินหายใจอักเสบ มีได้ทั้งแบบไม่แสดงอาการ ไปจนถึงเกิดอาการระบบทางเดินหายใจอักเสบแบบเฉียบพลัน และสามารถทำให้เกิดอาการปอดปวมได้

 

ระยะฟักตัวของเชื้อไวรัสโคโรนาจากการเฝ้าสังเกตการณ์กระทรวงสาธารณสุขจีนพบว่า มีระยะฟักตัวตั้งแต่ 1-14 วัน ซึ่งระยะฟักตัวนี้ ผู้ที่ได้รับเชื้อจะยังไม่สามารถรู้ตัวได้ว่าตัวเองได้รับเชื้อไปแล้ว เนื่องจากเชื้อจะยังไม่แสดงอาการอะไร และเชื้อตัวนี้ยังสามารถติดต่อไปสู่ผู้อื่นได้ตั้งแต่ในระยะฟักตัว สิ่งนี้เองเป็นหนึ่งปัจจัยที่ทำให้ยากต่อการควมคุมการแพร่กระจายของโรค

 

ความรุนแรงของโรคจะขึ้นอยู่กับ อายุ ยิ่งอายุน้อย ความรุนแรงของโรคก็จะน้อยลงตามไปด้วย ” ในทางกลับกันมันก็หมายความได้ว่า “ ยิ่งคุณมีอายุมากเท่าไหร่ความรุนแรงของโรคก็จะเพิ่มมากขึ้นตามไปด้วย ”  ความรุนแรงของโรคนี้สามารถคร่าชีวิตของเราได้เลย

 

แต่อย่าพึงตื่นตระหนกไป เพราะเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธ์ุที่ 7 นี้ มีความรุนแรงน้อยกว่าเชื้อโคโรนาที่ก่อให้เกิด “ โรคซาร์ส ” และ “ โรคเมอร์ส ” หากเทียบอัตราการเสียชีวิตจากผู้ที่ได้รับเชื้อตอนนี้ยังอยู่ที่ร้อยละ 3

 

 

  แล้วเราจะเฝ้าระวัง และป้องกันตัวเองให้ห่างไกลจากเจ้าเชื้อไวรัสโคโรนาได้อย่างไรหล่ะ?  

1.ให้หลีกเลี่ยงการอยู่ใกล้ และการสัมผัสผู้ป่วย หรือผู้ที่ต้องสงสัยว่าจะได้รับเชื้อ

2.ล้างมือบ่อยๆ และล้างมือก่อนรับประทานอาหารทุกครั้ง

3.กินอาหารที่ปรุงสุกเสมอ เพื่อเป็นการฆ่าเชื้อที่อาจจะปนเปื้อนมาในอาหารได้

4.สวมใส่หน้ากากอนามัยป้องกันเชื้อไวรัสที่ได้มาตรฐาน เวลาที่ต้องออกนอกบ้าน หรืออยู่ในที่ชมชุนที่มีคนเยอะๆ

5.ออกกำลังกาย และนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพออยู่เสมอ

 

หากอ่านมาถึงตรงนี้แล้วหล่ะก็ ท่านผู้อ่านทุกท่านก็น่าจะได้รู้จักเจ้าเชื้อไวรัส โคโรนา เพิ่มขึ้นมาอีกนิดแล้วใช่ไหมหล่ะคะ ซึ่งการที่เรารู้จักโรคนี้เพิ่มขึ้นมาก็ตรงกับคำกล่าวที่ว่า “ รู้เขารู้เรา รบร้อยครั้งชนะทั้งร้อยครั้ง ” หวังว่าผู้อ่านทุกท่านจะเป็นผู้ชนะดังเช่นคำกล่าวนี้ที่สามารถป้องกัน และรักษาตัวจากเชื้อไวรัสนี้ได้อย่างหมดกังวลนะคะ

 

 

และช่วงนี้หากผู้อ่านท่านใดกำลังมีความกังวลใจที่จะต้องเดินทางออกนอกบ้านบ่อยๆอยู่ เพราะกลัวว่าจะเป็นการเพิ่มโอกาสให้ตัวเอง และบุตรหลานในการรับเชื้อไวรัส โคโรนา ตัวนี้ แต่อีกใจก็ไม่อยากให้บุตรหลานอยู่ที่บ้านเฉยๆ โดยไม่ได้รับการฝึกฝนและพัฒนาทักษะด้านใดเพิ่มเติมเลย

 

วันนี้ทางสถาบันขอเสนอ โปรแกรม Fast ForWord ซึ่งเป็นโปรแกรมที่ได้รับการวิจัยและพัฒนาจากนักวิทยาศาสตร์ชั้นนำของโลกว่าสามารถช่วยพัฒนาทักษะด้านการฟัง สมาธิจากการฟัง รวมไปถึงพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษอย่างได้ผล แม้ในเด็กที่เป็น Dyslexia ซึ่งโปรแกรมนี้สามารถเรียนได้ง่ายๆที่บ้าน ผ่านช่องทางออนไลน์

 

 

 

 

 

 

BrainFit รับสมัครน้องๆ อายุตั้งแต่ 3-18 ปี

รับคำปรึกษาจากเรา ได้แล้ววันนี้ ฟรี!

ที่ 02-656-9938 / 02-656-9915 / 091-774-3769

LINE: @brainfit_th

 

 

 

Source: www.springnews.co.th, www.bbc.com, www.matichon.co.th

 

Contact Us

If you would like to have your child attend our course, or you would simply like more information, please contact us today.

BrainFit Studio Thailand 2nd floor, Ploenchit Center,
Sukhumvit Soi 2, Bangkok 10110BTS Ploenchit Station Exit 4