จัดสรรเวลา ให้มีคุณภาพ ด้วย เทคนิค Pomodoro

 

 

จัดสรรเวลา ให้มีคุณภาพ ด้วย Pomodoro Technique

 

 

"pomodoro จัดสรรเวลา"

 

 

การ จัดสรรเวลา เป็นเรื่องที่จำเป็นมากสำหรับพ่อแม่ และเด็ก ๆ ยุคใหม่ เพราะเวลาการเรียนของลูก ๆ เพิ่มมากขึ้น และมีการบ้านมากขึ้น ผู้ปกครองอาจจะกังวลในเรื่องของการ จัดสรรเวลา และการมีสมาธิจดจ่อกับการเรียนทั้งในห้องเรียนและการทำการบ้านที่บ้าน จึงอาจจะเกิดคำถามขึ้นในใจว่า

 

 

 

 

“ลูกไม่ค่อยมีสมาธิเลย ทำการบ้านได้ไม่ครบ หรือส่งงานไม่ครบตามกำหนดเวลา

ควรทำอย่างไรดีคะ”

 

 

 

เรามีเทคนิคเล็ก ๆ เริ่มต้นง่าย ๆ มาฝากค่ะ

 

 

การจัดสรรเวลา ให้มีคุณภาพ ด้วย Pomodoro Technique หรือที่เรียกว่าเทคนิคจับเวลามะเขือเทศ

 

คือ เทคนิคการจัดสรรเวลาทำงาน 25 นาที พัก 5 นาที สลับไปเรื่อย ๆ จนกว่าจะครบเป้าหมายงานที่ตั้งไว้ ซึ่งเทคนิคนี้คิดค้นขึ้นโดยนักธุรกิจชาวอิตาลี อ้างอิงมาจากการทำงานของสมอง ทั้งในเรื่องการจดจ่อและสมาธิ เวลาที่เหมาะสมสำหรับการทำงานจึงอยู่ในช่วง 25 - 30 นาที และมีการพักผ่อนที่เพียงพอ

 

 

 

เพราะอะไรเราจึงเรียกว่า Pomodoro Technique หรือเทคนิคจับเวลามะเขือเทศกันนะ
 

 

เรื่องนี้มีที่มาจาก Francesco Cirillo นักศึกษามหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งซึ่งกำลังเคร่งเครียดกับการสอบ แต่เขารู้ตัวว่าเขาไม่สามารถโฟกัสกับงานตรงหน้า หรือการอ่านหนังสือได้เลย เขาจึงลุกไปหาอาหารในห้องครัว และพบกับ นาฬิกาจับเวลารูปทรงมะเขือเทศ เมื่อเขาเห็นนาฬิกา เขาจึงอยากทดลองดูว่า เขาจะจดจ่อกับหนังสือบทนี้ได้นานมากน้อยแค่ไหน จึงลองจับเวลาไปเรื่อย ๆ จาก 2 นาที เป็น 10 นาที เรื่อย ๆ จน 25 นาที และหยุดพัก 5 นาที ซึ่งเป็นเวลาที่เหมาะสมมากสำหรับในเรื่องของการโฟกัสและการจดจ่อของเขา เมื่อเขาเห็นว่าเทคนิคนี้เหมาะสมกับเขา เขาจึงเรียกเทคนิคนี้ว่า Pomodoro Technique หรือ เทคนิคจับเวลามะเขือเทศ (ซึ่งมาจาก “pomodoro” ในภาษาอิตาลี)

 

"time management จัดสรรเวลา"

 

วิธีการจัดสรรเวลาด้วย Pomodoro Technique  

 

1. เตรียมนาฬิกาจับเวลา⌚

การใช้นาฬิกาจับเวลาเป็นตัวช่วยในเรื่องของการโฟกัส การควบคุมตัวเองไม่ให้วอกแวก และพยายามไม่นำโทรศัพท์เข้าไปขณะที่ต้องอ่านหนังสือ เพราะอาจจะทำให้เด็ก ๆ หรือรวมถึงเราเองหลุดโฟกัสได้ง่าย

 

 

2. กำหนดขอบเขตงานที่จะทำในแต่ละวัน📚

ตัวอย่างเช่น วันธรรมดา เด็ก ๆ ต้องโฟกัสกับการเรียน เมื่อกลับบ้านมาก็ต้องทำการบ้าน ซึ่งเด็กอาจจะใช้พลังสมองเยอะมากขณะเรียน ส่งผลให้เด็กเหนื่อยล้า และไม่อยากทำการบ้าน ลองเริ่มต้นจากการกำหนดวิชาที่เขาต้องส่งก่อน หรือเรียงลำดับความสำคัญว่าวิชาไหนต้องส่งเร็วที่สุด

 

 

3. ทำงานตามเป้าหมายโดยยึดหลัก ทำงาน 25 นาที พัก 5 นาที จนกว่างานจะสำเร็จ ✨

ในขั้นตอนนี้ ช่วงแรกอาจจะค่อย ๆ เพิ่มเวลา หากเราไม่เคยทำมาก่อน หรือเด็ก ๆ ไม่สามารถโฟกัสหรือจดจ่อกับงานได้นาน อาจจะเริ่มต้นจาก 5 นาที ไปจนถึง 10 นาที เมื่อคอยสังเกตว่าเด็กสามารถโฟกัสและทำจนสำเร็จ ค่อยเพิ่มเวลาให้ครบ 25 นาที ในแต่ละงาน ซึ่งเด็กแต่ละคนไม่เหมือนกัน ช่วงอายุที่ต่างกัน ช่วงเวลาในการจดจ่อก็ต่างกัน

 

 

 

ระยะเวลาในการจดจ่อของแต่ละช่วงวัย

 

🌈เด็ก 2-3 ขวบ : มีสมาธิจดจ่อ 4-15 นาที

เด็กในช่วงวัยนี้จะมีการจดจ่อค่อนข้างสั้น เช่น เวลาคุณแม่อ่านนิทานให้ฟังก็จดจ่อได้ประมาณ 3 - 5 นาที เท่านั้น และในส่วนของเรื่องอื่น ๆ จะมีการ

จดจ่อประมาณ 4 - 15 นาที กิจกรรมที่ช่วยเสริมในเรื่องของสมาธิ คือ การอ่านนิทาน กิจกรรมศิลปะ เพราะเทคนิคนี้อาจจะไม่เหมาะกับช่วงวัยนี้

 

🌈เด็ก 4-5 ขวบ : มีสมาธิจดจ่อ 8-25 นาที

เด็กจะเริ่มมีพัฒนาการด้านสมาธิที่เพิ่มมากขึ้น หากได้รับการฝึกฝน โดยเด็กวัยนี้จะสามารถเปิดดูภาพในนิทานได้เองยาวประมาณ 5-15 นาที

และทำกิจกรรมอื่น ๆ โดยมีสมาธิจดจ่ออยู่ที่ 8-25 นาที

 

🌈เด็ก 6-7 ขวบ : มีสมาธิจดจ่อ 12-35 นาที

เด็กจะมีสมาธิเพิ่มมากขึ้นแล้ว โดยจะมีสมาธิจดจ่อในการทำกิจกรรมต่าง ๆ อยู่ที่ประมาณ 12-35 นาที

หากผู้ปกครองสังเกตเห็นว่าลูกไม่ค่อยมีสมาธิหรือจดจ่อได้ไม่นานนัก สามารถปรึกษาแพทย์เกี่ยวกับพัฒนาการ

หรือปรึกษากับทาง BrainFit ได้เช่นกันค่ะ 

 

🌈เด็ก 8-9 ขวบ : มีสมาธิจดจ่อ 16-40 นาที

เป็นช่วงที่เด็กมีสมาธิยาวนานขึ้นและสามารถทำกิจกรรมที่ต้องใช้ความซับซ้อนหรือต้องจดจ่อนานๆ ได้แล้ว สำหรับระยะเวลาที่มีสมาธิจะอยู่ที่ 16-40 นาที

 

🌈เด็ก 10 ขวบขึ้นไป : มีสมาธิจดจ่อไม่เกิน 45 นาที

เด็กอายุ 10 ขวบขึ้นไป รวมไปถึงผู้ใหญ่ จะมีสมาธิจดจ่อได้ไม่เกิน 45 นาที แบบที่ไม่วอกแวก ต่อสิ่งเร้ารอบตัว

 

 

ระยะเวลาการจดจ่อแต่ละช่วงวัยเป็นเพียงทฤษฎีทางพัฒนาการเพียงเท่านั้น ซึ่งขึ้นอยู่กับเด็กแต่ละคน  บางคนอาจจะสามารถจดจ่อได้นานกว่านี้หรืออาจจะจดจ่อได้สั้น แต่หากมีการฝึกฝนที่เหมาะสม เราเชื่อว่าเด็ก ๆ จะมีการพัฒนาไปในทางที่ดีมากขึ้นค่ะ การพักผ่อนอย่างสดชื่น

เมื่อถึงเวลาในการพัก เราควรพักผ่อนอย่างมีประสิทธิภาพ เช่น การหลับตา การจิบน้ำ การออกกำลังกายเบา ๆ หรือ การยืดเหยียดร่างกาย เพื่อให้ร่างกายสดชื่นจากอาการเมื่อยล้า พยายามลดเวลาหน้าจอ การเล่นโทรศัพท์มือถือให้ได้มากที่สุด

 

 

4. ยืดหยุ่นเวลาตามความเหมาะสม 🏆

ขอบเขตงานที่เราวางไว้อาจจะใช้เวลามากกว่า 25 นาที งานใกล้เสร็จแล้ว หรือมีไอเดียต่าง ๆ ที่ไม่สามารถหยุดพักได้ ก็สามารถทำต่อได้เลยนะคะ แล้วค่อยปรับเวลาพักไปตามความเหมาะสมแทน แต่ควรหยุดพักนะคะ หากทำงานหนักเกินไป ส่งผลให้สมองล้าด้วยเช่นกัน

 

 

จากช่วงวัยของเด็ก ๆ ที่เราได้นำเสนอไป ช่วงวัยประมาณ 4 ขวบขึ้นไป ซึ่งเป็นช่วงวัยที่เด็ก ๆ เริ่มเข้าโรงเรียน เริ่มเข้าสู่โลกกว้างมากขึ้น มีสิ่งเร้ามากมายที่รออยู่ ซึ่งก็เป็นเรื่องปกติที่เด็ก ๆ จะสนใจหลายอย่างจนอาจจะไม่สามารถจดจ่อกับอย่างใดอย่างหนึ่งได้ นั่นเป็นเหตุผลที่ว่า Pomodoro Technique จะเป็นอีกหนึ่งเทคนิคที่ช่วยในเรื่องของการจัดสรรเวลาได้อย่างมีคุณภาพและมีสมาธิทำงานต่าง ๆ ให้สำเร็จได้มากยิ่งขึ้น

 

 

 

ผู้ปกครองสามารถใช้เทคนิคนี้ทั้งกับตัวเองและกับลูกรักได้เลยนะคะ เพราะเมื่อเรามีการจัดสรรเวลาที่ดีและมีคุณภาพ เราจะสามารถเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานได้ดีมากขึ้น โดยที่สมองจะไม่ล้าหรือเหนื่อยเกินไป รวมไปถึงการฝึกทักษะทางสมองทั้ง 5 ด้านจะสามารถช่วยพัฒนาทักษะทั้งในเรื่องของความจำ การจัดลำดับความสำคัญ และสมาธิการจดจ่อได้อีกด้วย

 

                                                                                       

"ทดลองเรียน"

 

 

BrainFit มีโปรแกรมการฝึกพัฒนาทักษะทางสมองทั้ง 5 ด้าน เหมาะกับทุกช่วงวัย ซึ่งเป็นการฝึกผ่านกิจกรรมที่สามารถช่วยเพิ่มทักษะต่าง ๆ ให้กับเด็ก ไม่ว่าจะเป็นเรื่องสมาธิ การจดจ่อ การเข้าใจและจัดการอารมณ์ต่าง ๆ ได้อย่างเหมาะสม 

 

 

สนใจติดต่อที่นี่ได้เลยนะคะ

 

 

 

จันทร์ อังคาร พุธ เสาร์ และ อาทิตย์  

02-656-9938 / 02-656-9939 02-656-9915

วันพฤหัสบดี-วันศุกร์  091-774-3769

 


เพิ่มเพื่อน

LINE: @brainfit_th


 

https://www.verywellmind.com/pomodoro-technique-history-steps-benefits-and-drawbacks-6892111

Contact Us

If you would like to have your child attend our course, or you would simply like more information, please contact us today.

BrainFit Studio Thailand 2nd floor, Ploenchit Center,
Sukhumvit Soi 2, Bangkok 10110BTS Ploenchit Station Exit 4