Brain-Based Learning เรียนรู้ตามหลักพื้นฐานสมอง

 

Brain-Based Learning เรียนรู้ตามหลักพื้นฐานสมอง


ทุกวันนี้ เทรนการเรียนรู้เปลี่ยนไป แนวโน้มการจัดการเรียนรู้ให้เด็ก ๆ มีทางเลือกมากขึ้น การเรียนรู้แบบดั้งเดิมไม่กระตุ้นการเรียนรู้เท่าที่ควร ในปัจจุบันหลักการทำงานของสมองเป็นที่รู้จักในวงกว้างมากขึ้น มีการนำมาประยุกต์ใช้กับหลากหลายศาสตร์ รวมถึงการจัดการเรียนรู้ให้กับเด็ก ๆ โดยอิงจากพื้นฐานสมองก็เช่นกัน


BrainFit มีเทรนการเรียนรู้ที่กำลังเป็นที่นิยมมาแนะนำให้รู้จัก นั่นคือ Brain Based Learning หรือการเรียนรู้ตามหลักพื้นฐานสมอง นั่นเอง

 


ก่อนอื่น เราไปทำความรู้จักกับ Brain Based Learning กันก่อน

 


"Brain-Based Learning"  Brain-Based Learning คืออะไร

 

Brain Based Learning หรือ BBL เป็นหลักการจัดการเรียนรู้ตามหลักพื้นฐานสมอง และพัฒนาการของสมองในแต่ละช่วงวัย โดยเป็นการนำความรู้จาก 2 ศาสตร์มาบูรณาการร่วมกัน คือ

  • หลักการทางประสาทวิทยา (Neurosciences)
  • ทฤษฎีการเรียนรู้ (Learning Theories)

 

โดยการนำทั้ง 2 ศาสตร์มาศึกษา และบูรณาการเข้าด้วยกัน ก็เพื่อจัดการเรียนรู้ให้มีประสิทธิภาพ  โดยพิจารณาถึงหลักการทำงานของสมอง ว่าสมองนั้น เรียนรู้ และจัดเก็บข้อมูลด้วยวิธีใดจึงจะมีประสิทธิภาพมากที่สุด

 


"สมอง 5 ด้าน" เรียนรู้ตามหลักพื้นฐานสมอง แล้ว สมองทั้ง 5 ด้าน มีอะไรบ้างนะ

  1. ด้านการมอง มิติสัมพันธ์
  2. ด้านการเคลื่อนไหว ควบคุมเรื่องของการทรงตัว กล้ามเนื้อมัดเล็ก และมัดใหญ่
  3. สมองส่วนหน้าที่ช่วยควบคุมเรื่องสมาธิ ความจำ การอดทนรอคอย
  4. ด้านการฟัง วิเคราะห์ แยกแยะเสียง
  5. ด้านอารมณ์ เกี่ยวกับการควบคุมอารมณ์ ความคิดในแง่บวก

 

"สมอง 5 ด้าน"

 

 

"ฝึกสมอง"วิธีเรียนรู้อย่างมีประสิทธิภาพ ตามหลัก Brain-Based Learning

 

1. อารมณ์ส่งผลกับการเรียนรู้  "Emotions"

อารมณ์ส่งผลต่อประสิทธิภาพการเรียนรู้โดยตรง หากเครียดเกินไป สมองจะหลั่งสารคอร์ติซอล (Cortisol) ออกมา ซึ่งจะทำให้สมองส่วนฮิปโปแคมปัส ที่ช่วยในเรื่องของความจำ ทำงานได้แย่ลง รวมถึงไปขัดขวางการสร้างเซลล์ประสาทใหม่อีกด้วย เพราะฉะนั้นการเรียนรู้ให้มีประสิทธิภาพ จึงจำเป็นต้องเรียนด้วยความสนุก

 

2. เริ่มจากง่าย ไปหายาก "'ฝึกสมองง่าย"

สมองจะเรียนรู้อย่างเป็นระบบ การที่เริ่มเรียนรู้จากเรื่องที่ง่าย เพื่อปูพื้นฐานให้แข็งแรง จะทำให้สามารถต่อยอดไปได้ไกลมากขึ้น เหมือนการเชื่อมต่อจุดเล็ก ๆ หลายจุดไปเรื่อย ๆ 

 

3. เรียนรู้ด้วยประสาทสัมผัสทั้ง 5 "ประสาทสัมผัส 5 ด้าน"

การเรียนรู้ด้วยประสาทสัมผัสทั้ง 5 ไม่ว่าจะเป็น การสัมผัส การมอง ได้ยิน ได้กลิ่น รับรส เมื่อใช้ประสาทสัมผัสหลายส่วนในการเรียนรู้ จะทำให้จดจำได้ดีขึ้น เพราะรับรู้จากหลายทาง รวมถึงกระตุ้นความตื่นเต้น และสนุกในการเรียนรู้อีกด้วย

 

4. สุขภาพกายแข็งแรง "สมองแข็งแรง"

การมีสุขภาพที่แข็งแรง จะทำให้เด็ก ๆ พร้อมในการเรียนรู้ รวมถึงการพักผ่อนอย่างเพียงพอ ที่ส่งผลต่อประสิทธิภาพในการจดจำข้อมูล รวมถึงการได้เคลื่อนไหวร่างกายเป็นประจำ ทำให้ตื่นตัวพร้อมรับบทเรียนใหม่ ๆ

 

5. Active Learning  "Active Learning"

เรียนรู้ผ่านการทดลองทำ และมีส่วนร่วมกับบทเรียน ได้ลองสัมผัส ปีนป่าย รวมถึงการแก้ปัญหาด้วยตนเอง โดยสมองจะเรียนรู้ได้ดีกว่า Passive Learning การจากฟังบรรยายเพียงอย่างเดียว

 

6. ฝึกสมองให้แข็งแรงทุกด้าน "ฝึกสมอง"

ในขณะที่เราเรียนรู้นั้น สมองทุกส่วนกำลังทำงานประสานกัน เช่น ขณะที่เรากำลังนั่งฟังการบรรยาย สมองส่วนที่ช่วยในการมองทำงานประสานกับการฟัง รวมถึงกล้ามเนื้อมัดเล็กในการจดข้อมูล สมองส่วนหน้าควบคุมเรื่องของสมาธิ และความจำ เพราะฉะนั้นการฝึกให้สมองแต่ละส่วนแข็งแรงนั้น จะทำให้การเรียนรู้มีประสิทธิภาพ และง่ายดายยิ่งขึ้น

 

"Active Learning"

 

"Brain-Based Learning"ประโยชน์ของการเรียนรู้แบบ  Brain-Based Learning 

 

  • ด้านจิตใจ

การเรียนแบบ Brain Based Learning นั้น คำนึงถึงด้านความรู้สึก ทั้งความเครียดที่พอดี รวมถึงทัศนคติในการเรียนรู้ด้วย

 

  • ความจำดีขึ้น

การเรียนรู้ตามหลักพื้นฐานสมอง ทั้งการเรียนรู้ด้วยประสาทสัมผัสทั้ง 5 และ Active Learning ทำให้จดจำได้ดีขึ้น

 

  • ช่วยให้เกิดการเรียนรู้อย่างยั่งยืน

การที่เด็ก ๆ มีทัศนคติที่ดีต่อการเรียนรู้ ทำให้ความอยากเรียนรู้ของเด็ก ๆ ไม่จำกัดเพียงการเรียนรู้ในห้องเรียนเพียงเท่านั้น

 

 

การฝึกของ BrainFit เอง เป็นการฝึกเพื่อพัฒนาสมาธิ และพัฒนาการในทุกด้านให้แข็งแรง โดยการฝึกนั้น อยู่บนพื้นฐานของ Brain Based Learning เช่นกัน

 

ฝึกพื้นฐานสมองทั้ง 5 ด้าน ผ่านกิจกรรมที่คิดค้นมาสำหรับฝึกสมองแต่ละด้านโดยเฉพาะ รวมทั้งเป็นการฝึกจากการปูพื้นฐานให้แข็งแรง จากกิจกรรมง่าย ไปยาก และเป็นการฝึกผ่านทางกิจกรรม ที่ผู้เรียนมีส่วนร่วมตลอดกิจกรรม ฝึกด้วยความสนุกสนาน ส่งผลต่อการมีทัศนคติที่ดีในการฝึก บทเรียนเรื่อง Emotions ฝึกให้เด็ก ๆ คิดแบบ Growth Mindset ซึ่งจะเป็นแนวความคิดที่ติดตัวเด็ก ๆ ตลอดไป

 


สนใจทดลองเรียนฟรี สามารถกรอกข้อมูลด้านล่างได้เลยนะคะ                                                                                                                                                               

 

What Is Brain-Based Learning?. (2021). [ออนไลน์]. ได้จาก:https://soeonline.american.edu/blog/brain-based-learning. [สืบค้นเมื่อ 24 เมษายน 2566]
Brain-based learning เมื่อสมองเป็นฐานของการเรียนรู้. (2021). [ออนไลน์]. ได้จาก:https://www.learn.co.th/articles/brain-based-learning. [สืบค้นเมื่อ 24 เมษายน 2566]

 

พัฒนาสมาธิเด็กอย่างถูกวิธี เห็นการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้น

ติดต่อ BrainFit เพื่อรับคำปรึกษา และทดลองเรียนฟรี!

                                                                                   

"ทดลองเรียน"

 

จันทร์ อังคาร พุธ เสาร์ และ อาทิตย์  

02-656-9938 / 02-656-9939 02-656-9915

วันพฤหัสบดี-วันศุกร์  091-774-3769

 


เพิ่มเพื่อน

LINE: @brainfit_th

 

 

Contact Us

If you would like to have your child attend our course, or you would simply like more information, please contact us today.

BrainFit Studio Thailand 2nd floor, Ploenchit Center,
Sukhumvit Soi 2, Bangkok 10110BTS Ploenchit Station Exit 4