เมื่อลูกรักมี พฤติกรรมเลียนแบบ

 

พฤติกรรมเลียนแบบ เป็นการเรียนรู้ตามธรรมชาติ โดยทำการเลียนแบบทั้งสิ่งที่ดีและสิ่งที่ไม่ดีปะปนกันไป และตามแนวคิดและทฤษฎีจิตวิทยากล่าวว่า การเรียนรู้ของมนุษย์ส่วนมากนั้นเป็นการสังเกตจนเกิดการเลียนแบบเพราะมนุษย์มีปฏิสัมพันธ์กับสิ่งแวดล้อมรอบตัวอยู่ตลอดเวลา .. เช่นเดียวกับเด็ก ๆ โดยเฉพาะในช่วงวัย 2-6 ปี เด็กในวัยนี้มีความสามารถจดจำพฤติกรรมต่าง ๆ ได้อย่างรวดเร็วและเริ่มมีพฤติกรรมเลียนแบบ คนรอบข้างโดยที่ไม่รู้ว่าเหมาะสมหรือไม่เหมาะสม เนื่องจากเด็กช่วงวัยนี้ยังไม่สามารถแยกแยะได้อย่างถูกต้อง
 

 

และพฤติกรรมเหล่านี้คุณพ่อคุณแม่ไม่ควรที่จะปล่อยปะละเลยไปนะคะ เพราะหากลูกรักเลียนแบบพฤติกรรมเหล่านี้อาจทำให้ส่งผลเสียได้! ?

 

          1. พฤติกรรมก้าวร้าว
จะปรากฏชัดขึ้นเมื่อเด็กมีอารมณ์ร่วมด้วยหรือไม่สามารถแก้ปัญหาได้ เช่น หากมีการทะเลาะเบาะแว้งในครอบครัว และมีการใช้คำพูดรุนแรง หรือทำลายข้าวของร่วมด้วย เมื่อลูกเห็นอาจซึมซับ เลียนแบบโดยอัตโนมัติว่าเมื่อเกิดเหตุการณ์ที่ไม่สามารถจัดการกับปัญหา หรือควบคุมอารมณ์ได้ เด็ก ๆ ก็จะนำพฤติกรรมเหล่านั้นมาใช้
 

          2. พฤติกรรมสนใจสื่อที่มีความรุนแรง
สำหรับเด็กเล็กหากผู้ปกครองปล่อยให้ลูกดูหน้าจอนานเกินไปและไม่ได้คำนึงถึงสื่อที่เหมาะสมกับช่วงวัย อาจทำให้เด็กได้รับสื่อที่มีเนื้อหาความรุนแรง ...ซึ่งนอกจากจะส่งผลต่อสมาธิและอารมณ์ของลูกแล้ว ยังทำให้เด็กเลียนแบบความรุนแรงจากสื่อเพราะเขาไม่สามารถแยกแยะได้

 

          3. พฤติกรรมการโกหก
หากไม่มีการอธิบายให้เด็กฟังว่าทำไมถึงโกหก เด็กจะเข้าใจว่าการพูดโกหกไม่ใช่สิ่งที่ผิด และอาจติดเป็นนิสัยได้

 

         4. พฤติกรรมลักขโมย
เด็ก ๆ อาจเคยเห็นคนในบ้านหยิบสิ่งของของคนอื่นมาใช้โดยไม่ต้องมีการขออนุญาต หรือการหยิบของส่วนรวมไปใช้ไปแล้วไม่ได้เอามาคืน การกระทำเช่นนี้มีผลทำให้เด็กมองว่าเป็นเรื่องปกติด้วยเช่นกัน

 

สำหรับวิธีการแก้ไข ไม่ว่าจะกรณีใดก็ตาม คุณพ่อคุณแม่พยายามแสดงตนให้เป็นตัวอย่างที่ดีของลูก เมื่อลูกเลียนแบบพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม คุณพ่อคุณแม่ต้องพยายามหาสาเหตุ และระมัดระวังพฤติกรรมที่แสดงออกตอนลูกอยู่ใกล้ ๆ เช่น อารมณ์โกรธ หรือคำหยาบ เป็นต้น นอกจากนี้ควรระมัดระวัง สื่อออนไลน์ การปล่อยให้เด็ก ๆ อยู่กับสิ่งเหล่านี้โดยไม่มีคนคอยแนะนำจะส่งผลให้เด็กเกิดการเลียนแบบในสิ่งที่ไม่เหมาะสมได้เช่นกันนะคะ 
 

สำหรับเด็ก ๆ แล้วการที่เขาได้รับการเลี้ยงดูที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความรักตั้งแต่ยังเล็ก นอกจากจะทำให้เขาเติบโตขึ้นเป็นผู้ใหญ่ที่มีความมั่นคงทางด้านอารมณ์ ยังช่วยพัฒนาความฉลาดในเรื่องของการใช้ภาษา การแสดงออกทางพฤติกรรมอย่างเหมาะสม อีกทั้งพัฒนาความฉลาดในเรื่องของความจำ การคิดวิเคราะห์ ความคิดสร้างสรรค์และจินตนาการได้อีกด้วย ?

 

สถาบัน BrainFit ของเราให้ความสำคัญกับพื้นฐานสมองที่ดีและแข็งแรง เรามีคอร์สพัฒนาทักษะสมองทั้ง 5 ด้าน เพื่อส่งเสริม พัฒนาการ ศักยภาพทางสมองของผู้เรียน ซึ่งกิจกรรมทุกรูปแบบถูกออกแบบตามหลักประสาทวิทยา และมีงานวิจัยรองรับ ทุกทักษะที่ได้ฝึกจะอยู่ติดตัวผู้เรียนไปตลอดชีวิต! ?

 

 

 

 

จันทร์ อังคาร พุธ เสาร์ และ อาทิตย์  02-656-9938 / 02-656-9939 / 02-656-9915

วันพฤหัสบดี-วันศุกร์  091-774-3769

LINE: @brainfit_th 

 

 

 

 

อ้างอิง : รศ. พญ.นิชรา เรืองดารกานนท์ และ ศ.พญ.จรุงจิตร์ งามไพบูลย์