เรียนรู้การพัฒนาลูกคุณให้ถูกทาง เริ่มง่ายๆที่ลายมือ

ลายมือเด็กนั้นสำคัญกว่าที่คุณคิด เพราะนอกจากจะหมายถึงการสื่อสารผ่านตัวอักษรที่มีประสิทธิภาพแล้ว การมีลายมือที่ดียังนำไปสู่พฤติกรรมระยะยาวหลายอย่าง เช่น การจดบันทึก จดเลคเชอร์ ทำรายงาน อ่านหนังสือ การจดแผนภาพและจัดการความคิดอย่างเป็นระบบและเข้าใจง่าย เป็นต้น ทักษะเหล่านี้ล้วนเป็นทักษะที่สำคัญมากเพราะเด็กๆต้องใช้ไปตลอดชีวิต

 

 

แล้วลายมือไม่สวยนี้เกิดจากอะไร? คุณพ่อคุณแม่คงจะคิดว่าเกิดจากความขี้เกียจของลูกๆใช่ไหมคะ จริงๆแล้วปฏิเสธไม่ได้ว่านั่นอาจเป็นส่วนหนึ่ง แต่ก็ “เล็กน้อยมากๆ” เมื่อเทียบกับทักษะการใช้อวัยวะทั้งสามส่วนที่เราจะกล่าวถึงต่อไปนี้ เพราะจริงๆแล้วนอกจากสมาธิและความอดทน การเคลื่อนไหวกล้ามเนื้อมัดต่างๆก็มีผลโดยตรงกับลายมือของเด็กๆในระยะยาวด้วยค่ะ

 

1. มือ

 

การใช้ Fine-Motor Skills คือ ทักษะการเคลื่อนไหวของกล้ามเนื้อมัดเล็ก ซึ่งเป็นการทำงานและควบคุมท่อนแขนด้านล่าง นิ้ว และฝ่ามือทั้งหมด ทักษะนี้จะมุ่งเน้นวิธีที่เด็กใช้มือและนิ้วจับบังคับดินสอ และความสามารถในการควบคุมน้ำหนักมือ ความแน่นในการจับดินสอ รวมถึงการลงน้ำหนักมือเวลาเขียนด้วย ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นปัจจัยโดยตรงที่ส่งผลต่อลายมือเด็กในส่วนของความคมชัดของเส้น และน้ำหนักของตัวหนังสือค่ะ

 

• จุดสังเกต : ไม่ว่าจะของชิ้นเล็กหรือใหญ่ จะหยิบอะไรก็หลุดมืออยู่ตลอดเวลา

หากเด็กๆไม่สามารถจับของชิ้นเล็กๆ เช่น ลูกปัด ของเล่นชิ้นเล็กๆ หรือหยิบจับได้ไม่แม่นยำ หลุดมือบ่อย นั่นอาจเป็นสัญญาณว่าเด็กๆไม่สามารถควบคุมการใช้กล้ามเนื้อมัดเล็ก ฝ่ามือ และข้อต่อของนิ้วได้ดีพอ ซึ่งเป็นสาเหตุให้เด็กๆเขียนหนังสือไม่สวยนั่นเองค่ะ

• การดูแล : Smart Moves มาฝึกการเคลื่อนไหวอย่างชาญฉลาดกัน

การฝึกการเคลื่อนไหวอย่างชาญฉลาดหรือ Smart Moves เป็นการช่วยให้เด็กๆจัดระเบียบ และควบคุมส่วนต่างๆของร่างกายได้ดีขึ้น โดยการฝึกเคลื่อนไหวกล้ามเนื้อมัดเล็ก พัฒนาความแข็งแรงของกล้ามเนื้อมือด้วยกิจกรรมต่างๆ เช่น การตัดกระดาษเป็นรูปที่ซับซ้อน และการพับกระดาษ เป็นต้น หากฝึกกล้ามเนื้อมัดเล็กให้แข็งแรงพอแล้ว นอกจากเด็กๆจะมีลายมือที่สวยขึ้น เส้นคมชัดขึ้น และน้ำหนักพอดีแล้ว เด็กๆยังสามารถทำกิจกรรมที่ต้องทำบนโต๊ะ หรือใช้มือ เช่น การหยิบจับของเล็กๆ และการทำงานศิลปะ การระบายสี จับพู่กัน และเล่นดนตรีที่ต้องใช้แรงนิ้วกด เช่นเปียโนหรือไวโอลินได้ดีขึ้นด้วย

 

 

2. ร่างกาย

 

Gross-Motor Skills คือ ทักษะการเคลื่อนไหวของกล้ามเนื้อมัดใหญ่ การควบคุมการนั่งของเด็กให้อยู่ในลักษณะที่ถูกต้องและนิ่ง ตั้งแต่สะโพก ส่วนท้อง หลัง ไหล่ ไล่มาจนถึงแขนและข้อมือ การจัดระเบียบท่านั่งที่ดี จะบังคับให้มือนิ่งพอจนทำให้เขียนหนังสือเป็นระเบียบและสวย

จุดสังเกต : นั่งไม่นิ่ง เดี๋ยวลุกเดี๋ยวนั่ง ขยุกขยิกตลอดเวลา

การที่ตัวหนังสือเอียง หรือขนาดตัวอักษรเล็กใหญ่ไม่เท่ากัน หรือเขียนตกบรรทัด อาจมีสาเหตุมาจากการเคลื่อนไหวของกล้ามเนื้อมัดใหญ่ ลองสังเกตดูนะคะ ว่าลูกๆมีพฤติกรรมการนั่งเป็นอย่างไรบ้าง ถ้าเด็กไม่สามารถนั่งตรงๆหรือวอกแวกไปมาตลอดเวลา อาจหมายความว่าเด็กมีปัญหาในการจัดระเบียบและควบคุมร่างกาย โดยอาจเป็นปัญหาเรื่องกระดูกสันหลังไม่ตรง ทำให้เจ็บและต้องขยับตลอดเวลานั่นเอง

การฝึก Trampoline และ Balance Ball สามารถช่วยได้

การจดงานที่เป็นระเบียบ ตรงเส้น เกิดจากเด็กนั่งในท่าที่ถูกต้อง และจัดระเบียบร่างกายเมื่อเคลื่อนไหวกล้ามเนื้อมัดใหญ่และเล็กไปพร้อมๆกันได้ดี การเล่น Trampoline เป็นการฝึกกล้ามเนื้อมัดใหญ่ ช่วยวางแผนการเคลื่อนไหวของอวัยวะและคาดคะเนระยะ ทำให้น้องๆควบคุมจังหวะ เวลา และความสัมพันธ์ระหว่างส่วนต่างๆของร่างกายได้ดีขึ้น เช่นเดียวกับการเล่น Balance Ball จะช่วยในเรื่องของการทรงตัว การรับรู้และความมั่นคงของร่างกาย รวมถึงความสัมพันธ์ของอวัยวะต่างๆ การทำกิจกรรมเหล่านี้ นอกจากจะช่วยเรื่องพัฒนาลายมือแล้ว ยังทำให้น้องๆทำกิจกรรมที่ต้องใช้การเคลื่อนไหว เช่น การเล่นกีฬา เตะฟุตบอล เล่นบาสเก็ตบอล ได้ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัดด้วยค่ะ

 

 

 

3. สายตา

Vision Processing and Ocular Control คือ ความสามารถในการบังคับการมองเห็นและประมวลผล และความแข็งแรงของกล้ามเนื้อตา ความสามารถนี้ของเด็กต้องแข็งแรงพอที่จะทำให้ลูกตานิ่งเวลาที่สมองประมวลผลจากสิ่งที่ตาเห็น และส่งต่อข้อมูลไปยังปลายนิ้วเพื่อบังคับการขยับของดินสอ

จุดสังเกต : ไม่ค่อยสบตา หาของไม่ค่อยเจอ อ่านหนังสือข้ามคำหรือข้ามบรรทัด

การที่เด็กขยี้ตาบ่อยๆเกิดจากหลายปัจจัย แต่ส่วนใหญ่มักเกิดจากการที่เด็กรู้สึกปวดตา หรือกระบอกตา หรือรู้สึกว่ามีแสงจ้ามากเกินไป แต่ถ้ามีอาหารปวดหัว ปวดตาหรือบริเวณกระบอกตาร่วมด้วย และนั่นคือสัญญาณเตือนว่าเด็กกำลังมีปัญหาเรื่องการมองเห็นรวมถึงการควบคุมประสาทตา ส่งผลให้เด็กไม่สามารถจดงานได้อย่างระเบียบ จดผิดๆถูกๆ หรือจดช้าลงอย่างเห็นได้ชัด

การดูแล : มาฝึก Visual Skill อย่างเป็นระบบกันเถอะ

การฝึก Visual Skill อย่างเป็นระบบ เช่น การฝึกมองรายละเอียดของภาพรวมและสามารถมองเห็นความแตกต่างของสิ่งที่เหมือนหรือคล้ายกัน (Visual Perception) และเปลี่ยนจุดโฟกัสทางการมองและรับรู้ข้อมูลได้อย่างรวดเร็ว (Visual Tracking) เป็นกิจกรรมที่ช่วยให้ควบคุมการเคลื่อนไหวกล้ามเนื้อตาอย่างชาญฉลาด ซึ่งแน่นอนว่านอกจากจะช่วยในเรื่องการพัฒนาลายมือให้เด็กเขียนตัวหนังสือได้ชัดเจน ถูกต้องขึ้น ไม่ว่าจะจดบันทึก หรือคัดลอกข้อความ ยังทำให้เด็กๆเรียนรู้ได้เร็วขึ้นด้วย เพราะมีทักษะการมองและพยายามจดจำภาพที่เห็นอย่างรวดเร็วและเป็นระบบ อีกทั้งยังสามารถบอกความแตกต่างของสิ่งที่เห็นได้ และมีผลพลอยได้เรื่องการกะระยะทาง การแยกแยะสี รูปทรง ซึ่งเป็นทักษะจำเป็นในการเล่นดนตรี กีฬา และทำงานศิลปะอีกด้วยค่ะ

 

 

หากคุณพ่อคุณแม่ท่านใดกำลังเป็นห่วงเรื่องลายมือของลูกๆ หรืออยากให้น้องๆพัฒนาด้านการเขียนให้เร็วขึ้น ลายมืออ่านง่าย ชัดเจน และปราณีตขึ้นโดยธรรมชาติ แนะนำให้คุณพ่อคุณแม่สังเกตพฤติกรรมของเด็กๆ และพัฒนาทักษะ 3 ชนิดนี้ให้แข็งแรงขึ้นนะคะ โดยอาจเริ่มจากวิธีง่ายๆ เช่นให้เด็กๆหัดใช้ฝ่ามือและข้อนิ้วด้วยการจับตะเกียบ หรือหยิบจับของเล็กๆเช่นลูกปัดใส่ขวดปากแคบ สอนท่านั่งที่ถูกต้องบนเก้าอี้แบบต่างๆ หรือจะให้ลองนั่งสมาธิก็เป็นไอเดียที่ดีค่ะ รวมถึงฝึกกล้ามเนื้อตาด้วยการให้เด็กๆมองวัตถุเคลื่อนไหวในธรรมชาติเช่น นก ปลา หรือสัตว์เลี้ยงก็ได้ค่ะ

 

 

และถ้าอยากให้น้องๆได้ฝึกทักษะเหล่านี้ด้วยการทำกิจกรรมแบบ Gym-based ที่เน้นการออกกำลังและทำ กิจกรรมสนุกๆมากมาย เพื่อฝึกฝนมือ ร่างกาย และสายตาอย่างเป็นระบบโดยผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้าน คุณพ่อคุณแม่และผู้ปกครองที่สนใจสามารถโทรมาปรึกษาผู้เชี่ยวชาญได้ที่ 02-656-9938 ที่ Brainfit Studio พร้อมให้ข้อมูลและคำปรึกษาเกี่ยวกับการพัฒนาทักษะทั้งสามด้านอย่างละเอียด หากสนใจก็สามารถสมัครเรียนได้เลยทันทีค่ะ

 

 

ขอรับคำปรึกษาได้ฟรี โทร 02-656-9938 

วันพฤหัสบดี-วันศุกร์ 091-774-3769

BrainFit จัดสัมนาเกี่ยวกับการพัฒนาสมอง และคอร์สระบบการฝึกของเรา อย่างสม่ำเสมอ **สำรองที่นั่งล่วงหน้า ที่นั่งมีจำนวนจำกัด**
หรือสามารถกรอกข้อมูลด้านล่าง เพื่อให้เจ้าหน้าที่สามารถทำการติดต่อได้ทันทีค่ะ